วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Unit 17 : 内省 

สวัสดีค่าา 

วันนี้จะเป็นการอัพบล็อคครั้งสุดท้ายของเราแล้วนะคะะ เราจะมาพูดถึงคำศัพท์ต่างๆที่เราได้อัพไปเนี้ย เราเอาไปลองใช้ยังไง แล้วเป็นยังไงบ้าง

เนื่องจากคำศัพท์ของเรามันค่อนข้างกระจายเนอะ เราก็เลยใช้วิธีที่จะเอาศัพท์หลายๆอย่างมารวมกันได้ในครั้งเดียว ด้วยวิธีการแต่งเรื่องขึ้นมาโดยใช้ศัพท์ต่างๆที่อัพไว้เลือกมา 10 คำค่ะ  แล้วจากนั้นเราก็ใช้คนญี่ปุ่นช่วยเช็คให้ในเว็บ Lang 8 ค่ะ ก่อนอื่น มาดูกันดีกว่า ว่าเราแต่งว่ายังไง

マルちゃんの日記 (ฉบับแต่งเอง)

                               2014年12月6日

ようやく冬が来た!桜が満開になる春のほかに、この季節も一番好きな季節だ。どこに見ても、真っ白だから。特に、家の屋根の積雪のような光景はとってもきれい。私の家は北海道に位置するから、やっぱりすっごく寒いよね。それにしても、大好きだ、この季節は。

今日伯父さん睡眠導入剤を買ってくれと頼まれた。その時、ちょうど降雪があった。雪の中に歩いて、とても気持ちがよかった。「途中で雪女なんかと会ったらいいね」とずっと思っていて、本当に会いたかった。

帰っている間に、白いファーがいっぱいある大きい人間みたいなものが木の下に立っているのが見えた。「雪男!!?」と思って、嬉しかった。しっかり見ると、それは大きいファーセーターを着た魚屋の小父さんだ。それから、失望の気持ちで家へ帰った。

------------------------------------------------------------------------------------------------
หมายเหตุ :
- ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องแต่งขึ้นนะคะ 
- ที่ไฮไลท์สีเขียวไว้คือเป็นศัพท์จากบล็อคนี้นะคะ
------------------------------------------------------------------------------------------------

แล้วเราก็ได้เอาไปให้คนญี่ปุ่นเช็คมาให้ค่ะ แน่นอนค่ะว่า ผิดตรึมมม T0T มาดูกันดีกว่าค่ะะ

マルちゃんの日記 (ฉบับคนญี่ปุ่นแก้ให้)

                               2014年12月6日

ようやく冬が来た!桜が満開になる春のほかに、この季節も一番好きな季節だ。どこ見ても、真っ白だから。特に、家の屋根に雪が積もった積雪のような光景はとってもきれい。私の家は北海道にある位置するから、やっぱりすっごく寒いよね。それにしても、大好きだ、この季節(は)

今日伯父さん睡眠導入剤を買ってくれと頼まれた。その時、ちょうど雪が降っていた降雪があった。雪の中歩いて、とても気持ちがよかった。「途中で雪女なんかと会ったらいいね」とずっと思っていて、本当に会いたかった。

帰っている間に、白いファーがいっぱいある大きい人間みたいなものが木の下に立っているのが見えた。「雪男!!?」と思って、嬉しかった。しっかり見ると、それは大きいファーセーターを着た魚屋のおじさん小父さんだ。それから、残念な失望気持ちで家へ帰った。

------------------------------------------------------------------------------------------------

สรุป :
- คำที่ใช้ถูกและไม่โดนแก้นะคะ มี 満開  伯父さん  睡眠導入剤  雪女  雪男 (ผิดครึ่งต่อครึ่งเลยค่ะ 55)
- ส่วนคำอื่นๆคนญี่ปุ่นแก้มาให้นะคะ เราก็ได้ถามเขาดูว่าทำไมถึงใช้คำนั้นไม่ได้ เขาก็ให้คำตอบมาแบบนี้ค่ะ 
  1) 家の屋根の積雪のような光景 : ที่ใช้ไม่ได้เพราะ 積雪 จะใช้พูดถึงหิมะที่ทับถมอยู่หน้าดิน จะไม่ใช้พูดถึงหิมะบนหลังคา อย่างเช่น 北海道の積雪量はとても多い。(Kanako)
  2) 北海道に位置する : ความจริงมันก็ไม่ผิดนะคะ แต่ว่ามันเป็นสำนวนที่ดูแข็งๆไป ถ้าใช้เขียนในพวก 論文 หรือบทความทางการอะไรแบบนี้จะไม่แปลกค่ะ เช่น 北海道は日本の北部に位置する島だ。ในกรณีนี้ にある จะเหมาะกว่า (Kanako)
  3) その時、ちょうど降雪があった : ความจริง その時、ちょうど降雪があった ก็โอเคนะ แต่สำนวน ちょうど雪が降っていた จะเป็นธรรมชาติกว่า (Fomula100)
  4) 小父さん : ปกติเขาตะไม่ค่อยใช้ตัวคันจิกัน ใช้ おじさん ดีกว่า (Fomula100)
  5) 失望の気持ち :   คำว่า 失望 ใช้แล้วมันจะดูหนักกว่า ในกรณีนี้ใช้ 残念 ก็พอ (Fomula100)
- สรุปก็คือ ครั้งนี้เราแต่งเรื่องที่มันควรจะใช้ภาษาง่ายๆก็พอ เลยทำให้หลายคำพอใส่แล้วมันก็เลยแปลกๆ แต่ก็ดีใจนะคะที่ได้ลองทำแล้วลองให้คนญี่ปุ่นช่วยเช็คดู จะได้รู้ว่าอันไหนไม่ควรใช้ในสถาณการณ์ไหน รู้ว่าอันไหนถึงแม้ว่าจะถูกแต่มันก็ไม่เป็นธรรมชาติ ขอบคุณทุกคนที่ช่วยแก้ให้มากๆเลยนะคะ :)

วันนี้ก็เป็นครั้งสุดท้ายที่จะอัพบล็อคนี้แล้ว ขอบคุณมากนะคะที่ติดตามมาจนถึงบทสุดท้ายนี้ ขอบคุณอ.กนกวรรณที่ทำให้เกิดบล็อคนี้ขึ้น ได้เรียนรู้ทั้งจากบล็อคตัวเองและบล็อคของเพื่อนๆ ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็ตาม แต่เวลาได้อัพอะไรแบบนี้ทั้งความสุขทั้งได้ประโยชน์ค่ะ

本当にありがとうございました。お疲れ様でした。\(^ ^)/

วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Unit 16 : 博物館に行くのが好きですか?

โอ้วเย้ สอบเสร็จแล้วค่าาา บอกเลยว่าดีใจมากๆค่าา


ปีนี้เป็นปีที่หนักสุดตั้งแต่เคยเรียนหนังสือมาในชีวิตเลยค่ะ 55 แต่สุดท้ายก็ผ่านมันมาได้ ยังไงก็ยินดีกับทุกๆคนด้วยนะคะะ ตอนนี้เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ

วันนี้เราจะสอนคำศัพท์พร้อมแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ้นไปด้วยเป็นครั้งสุดท้ายนะคะ ที่จะพาไปวันนี้เป็น...................พิพิธภัณฑ์ค่ะ! ชอบเข้าพิพิธภัณฑ์กันรึเปล่าค่ะะ เราชอบค่ะ 55 อยากให้เพื่อนๆลองเข้ากันดูนะคะ ได้รู้เรื่องอะไรใหม่ๆเยอะแยะเลย (แต่เข้าเสร็จสองสามวันหลังจากนั้นเราก็ลืมสิ่งที่ได้มาหมดค่ะ ฮา 55)

วันนี้จะพาไปพิพิธภัณฑ์ที่โตเกียวที่โด่งดังค่ะ ชื่อว่า Tokyo National Museum หรือภาษาญี่ปุ่นคือ 東京国立博物館(とうきょうこくりつはくぶつかん) นั่นเองค่ะ ชื่อง่ายๆ ตรงๆค่ะ 

คำว่า 国立(こくりつ)ทุกคนน่าจะพอรู้กันอยู่แล้วเนอะ แปลว่า -แห่งชาติ นั้นเองค่ะ แปลเป็นไทยก็เลยน่าจะชื่อว่าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียวค่ะ 


เราเข้าไปในเว็บของทางพิพิธภัฑณ์แล้วนำส่วน 館の概要 มาให้อ่านกันค่ะ 

แต่เอ๊ะ 概要 นี่แปลว่าอะไร เพื่อนๆพอจะทราบไหมคะ เราเองเคยเจอหลายครั้งมาก แต่ไม่เคยเปิดดิกหาดูเลย เพิ่งมาเปิดดูก็วันนี้แหละค่ะ 55

คำว่า 概要(がいよう) คือ เนื้อหาโดยสังเขป นั้นเองค่ะ ก็คือเป็นเหมือนสิ่งที่สรุปมาจากเนื้อหาทั้งหมดนั่นเอง เพื่อจะได้อ่านกันสั้นๆ และมีแต่ใจความสำคัญ ประมาณนี้แหละค่ะ หายสงสัยกันแล้วนะคะ ไปดูบทความกันดีกว่า (มี 2 ย่อหน้านะคะ)


東京国立博物館は、わが国の総合的な博物館として日本を中心に広く東洋地域にわたる文化財収集保管して公衆観覧に供するとともに、これに関連する調査研究および教育普及事業を行うことにより、貴重な国民的財産である文化財の保存および活用を図ることを目的としています。
-----------------------------------------------------------------------------
Note : 
総合的な(そうごうてき) = ที่ครอบคลุม
東洋(とうよう)= ประเทศแถบตะวันออก ดังนั้น 東洋諸地域 จึงหมายถึง พื้นที่หลายๆพื้นที่ทางประเทศแถบตะวันออก
文化財(ぶんかざい)= สินทรัพย์ทางวัฒนธรรม
収集 (しゅうしゅう)する = สะสม
保管(ほかん)する = เก็บ
公衆(こうしゅう)= สาธารณะ
観覧(かんらん)= การชม
普及(ふきゅう)= การแพร่ ดังนั้น 教育普及事業 จึงหมายถึง งานเผยแพร่ทางการศึกษา
貴重な (きちょう)= มีค่า
財産(ざいさん)= ทรัพย์สิน, สมบัติ
保存(ほぞん)= การเก็บรักษา
活用 (かつよう)= การนำไปใช้
-----------------------------------------------------------------------------




平成19年4月1日からは、東京国立博物館の所属する独立行政法人国立博物館と独立行政法人文化財研究所統合され「独立行政法人国立文化財機構」が発足しました。法人のもと貴重な国民的財産である文化財の保存及び活用を、より一層効率的かつ効果的に推進していきます。
-----------------------------------------------------------------------------
Note : 
所属(しょぞく)する = อยู่, เป็นของ
独立行政法人(どくりつぎょうせいほうじん) = องค์กรอิสระ 
統合(とうごう)する = บูรณาการ, ผสาน
発足(ほっそく)する = เริ่ม
法人(ほうじん)= นิติบุคคล
一層(いっそう)= ยิ่งขึ้นไปอีก
推進(すいしん)する = ผลักดันให้คืบหน้า
-----------------------------------------------------------------------------

คำศัพท์เยอะเลยทีเดียวเนอะ แต่ยิ่งเพิ่มพูนศัพท์เยอะยิ่งได้เปรียบนะคะ ^^ 

วันนี้ก่อนจะลากัน เราจะเลือกคำศัพท์สำคัญๆมาให้ดูอีกทีนะคะ ดูสิว่าจำกันได้บ้างหรือเปล่าเอ่ย เยอะหน่อยนะคะครั้งนี้ แต่คิดว่าน่าจะนำไปใช้ประโยชน์ได้เยอะค่ะ 


総合的な    東洋    収集    保管    公衆    普及  貴重な    
保存    活用    所属    統合   一層    推進


เจอกันใหม่นะคะะ ราตรีสวัสดิ์ค่า :)

วันเสาร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2558

Unit 15 : お花見に行きまましょう!

กลับมาเจอกันอีกครั้งนะคะะ

ช่วงนี้ที่ญี่ปุ่นกำลังอยู่ในช่วงซากุระบานพอดีเลย เลยอยากจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวพร้อมๆกับการสอนคำศัพท์ไปด้วย ถ้าเห็นเครื่องหมาย ปรากฏอยู่ในย่อหน้าไหน แปลว่า จะขออธิบายคำศัพท์นะคะ

ก่อนอื่น ถ้าอยากจะบอกว่า ฤดูนี้เป็นช่วงที่ซากุระบานเต็มที่ ทุกคนจะพูดว่าอะไรกันดีค่ะ
อาจจะใช้ว่า 桜が十分に咲く หรืออะไรประมาณนี้ใช่ไหมคะ  แต่มันมีคำศัพท์ 漢語 ที่หมายถึงบานสะพรั่ง บานเต็มที่ นั่นก็คือคำว่า
満開 (まんかい)= บานเต็มที่ จะใช้เป็นเหมือนคำนามนะคะ
เช่น  この季節に桜が満開だ。
     満開の桜がきれいだね。
ส่วนอีกคำที่อยากให้รู้จักคือ คำว่า
開花(かいか)する = (ดอกไม้)บาน เฉยๆค่ะ ไม่ได้หมายถึงบอกว่าบานเต็มที่
เช่น  ・家の隣の公園で桜が開花した


วันนี้เราจะพาไปชมซากุระที่สวนในซากปราสาทฟุนะโอกะค่ะ ภาษาญี่ปุ่นคือ 船岡城址公園(ふなおかじょうしこうえん) ตั้งอยู่ที่เมืองชิบาตะ จังหวัดมิยางิค่ะ ที่นี่ได้รับการโหวตว่าเป็น 1 ใน 100 จุดชมซากุระที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นด้วย

ชื่อของสถานที่ดูยาวๆเนอะ แต่แยกออกมาแล้วไม่ยากเลยค่ะ คำว่า 城址(じょうし)= ซากปราสาท ค่ะ 船岡城址公園 จึงหมายถึง สวนในซากปราสาทฟุนะโอกะ


ช่วงกลางเดือนเมษายนของทุกปีที่นี้จะจัดงานชมซากุระค่ะ (しばた桜まつり)ซึ่งสวยงามมากๆ
ไฮไลท์ของที่นี้คือ การนั่งรถรางสโลปคาร์(スロープカー)ลอดผ่านอุโมงค์ซากุระและทุ่งดอกไม้หลากหลายชนิดที่บานสะพรั่งระหว่างที่ขึ้นไปนมัสการเจ้าแม่กวนอิมที่ตั้งอยู่บนยอดเขาค่ะ

คำว่าเจ้าแม่กวนอิม ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า 観音様(かんのんさま)ค่ะ จะมักปรากฎให้เห็นตามตำนานเรื่องเล่าญี่ปุ่นบ่อยๆเหมือนกันเนอะ ถ้าแต่งเป็นประโยคว่า นมัสการเจ้าแม่กวนอิมบนยอดเขา ก็จะได้ว่า 山頂で観音様拝むค่ะ คำกริยา 拝む(おがむ)หมายถึง ไหว้ นมัสการ นั่นเองค่ะ


พออยู่บนยอดเขาเราก็จะสามารถเห็นตัวเมืองชิบะตะ แม่น้ำชิโรอิชิงะวะที่มีต้นซากุระเรียงรายอยู่พันกว่าต้น(白石川堤一目千本桜) และมองดูหิมะที่ยังหลงเหลืออยู่ที่ภูเขาซาโอ (蔵王)ได้ด้วย นะคะ

คำว่า หิมะที่ยังหลงเหลืออยู่ ก็มีเป็น  漢語 2 ตัวสั้นๆเหมือนกัน คือ  残雪(ざんせつ)เพราะฉะนั้นถ้าจะบอกว่า มองดูหิมะที่ยังหลงเหลืออยู่ที่ภูเขาซาโอ เราก็ใช้ได้สั้นๆเลยว่า 残雪の蔵王を眺める。ค่ะ


ค่านั่งรถรางราคาเพียงแค่ 250 เยน/เที่ยว เองด้วย ถูกแถมยังได้มองเห็นวิวสวยๆขนาดนี้อีก ไม่ไปไม่ได้แล้วเนอะะ
วันนี้ก่อนจากกันขอสรุปคำศัพท์ที่ได้จากบทนี้กันก่อนนะคะ

満開   開花   城址   観音様   拝む   残雪

ครั้งต่อไปคิดว่าจะยังเป็นธีมสถานที่ท่องเที่ยวอีกครั้งค่ะ จะไปที่ไหนติดตามชมบทต่อไปนะคะ :)
バイバイ~~~

วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2558

Unit 14 : 阿蘇山に行きましょう!

สวัสดียามดึกค่ะ

ยามดึกปกติแล้วเราควรจะอัพรูปของกินกันใช่ไหมคะ แต่วันนี้เราจะไม่อัพรูปของกินค่ะ เบื่อแล้ว เรามาอัพรูปสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆกันดีกว่า เผื่อจะล่อตาล่อใจให้ใครอยากไป ^^

ช่วงนี้เราชอบอ่านพวกสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นมากเลยค่ะ เลยเกิดไอเดียว่าอยากจะอัพคำศัพท์ไปด้วยและแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆให้เพื่อนๆไปด้วย มันน่าจะทำให้รู้สึกน่าสนใจขึ้น และคำศัพท์เหล่านี้ก็ยังสามารถเอาไปใช้จริงได้ถ้าเราไปเที่ยวที่นั้นจริงๆ วันนี้เราจะพาไปชมภูเขาไฟกันค่ะ แต่ไม่ใช่ภูเขาไฟฟูจินะ ภูเขาไฟนี้ก็โด่งดังมากทีเดียว อยู่ที่เกาะคิวชู เราไปดูกันดีกว่าค่ะ!!

เราจะพาไปดูภูเขาไฟอะโซะ (阿蘇山) ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นค่ะ เย้~~
ก่อนอื่นเราไปรู้จักกับภูเขาไฟอะโซะเป็นภาษาญี่ปุ่นกันก่อนดีกว่า

阿蘇山 (あそさん)

  

 九州中部の熊本県阿蘇地方位置する世界最大級の大きさを誇るカルデラ(東西約17km、南北約25km、面積約350k㎡)の中に、今も噴煙を上げ続けている中岳を始めとする中央火口丘群(主に阿蘇五岳など)が存在します。
 その中央火口丘群のことを"阿蘇山"と呼んでいます。
 阿蘇五岳は高岳(たかだけ)、中岳(なかだけ)、烏帽子岳(えぼしだけ)、杵島岳(きじまだけ)、根子岳(ねこだけ)のことで、阿蘇山という単体の山はありません。またカルデラの外側にはなだらかな火砕流台地によって"外輪山"が形成されており、 学術的にはこの外輪山まで含めて"阿蘇火山"と呼んでいます。

---------------------------------------------------------------------------
Note:
阿蘇地方(あそちほう)= เขตอะโซะ
位置(いち)する = ตั้งอยู่ที่
カルデラ  = หลุมปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดจากปล่องภูเขาที่ระเบิดพ่นเถ้าลาวา แล้วเย็นและยุบตัวลงเป็นหลุม
面積(めんせき)= พื้นที่
噴煙(ふんえん)= ควันที่เกิดจากการประทุ
中央(ちゅうおう)= ตรงกลาง
火口(ひぐち)= ปล่องภูเขาไฟ
阿蘇五岳(あそごがく)= ภูเขาห้าอันที่อยู่ในภูเขาไฟอะโซะ ได้แก่ 高岳、中岳、烏帽子岳、杵島岳、根子岳


単体(たんたい)= เดี่ยวๆ
なだらか(な)= เอียงเบาๆ 
火砕流(かさいりゅう)= การไหลของหินตะกอนภูเขาไฟ
台地 (だいち)=ที่ราบสูง
外輪山(がいりんざん)= ขอบข้างนอกของปล่องภูเขาไฟ
学術(がくじゅつてき)= ทางวิทยาศาสตร์
---------------------------------------------------------------------------

ภูเขาไฟอะโซะเนี้ย ตั้งอยู่ที่เขตอะโซะ จังหวัดคุมาโมโตะ ในเกาะคิวชูค่ะ ประกอบไปด้วยภูเขาอีก 5 ลูก และแต่ละลูกก็มีปล่องภูเขาไฟ ซึ่งปัจจุบันก็ยังเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับนะคะ ยังปล่อยก๊าสพิษออกมาบ่อยๆ ซึ่งเวลาจะไปเที่ยวต้องเช็คเวลาให้ดีนะคะ เพราะบางทีเขาก็ไม่ปล่อยให้เข้าไปใกล้ กลัวว่าเดี๋ยวจะได้รับก๊าซพิษนั้นเข้าไปค่ะ ที่เข้าไปได้ง่ายที่สุดก็ดูเหมือนจะเป็น 中岳 นะคะ และใกล้ๆปล่องนี้ก็ยังมีทุ่งกว้างใหญ่ที่บริการให้ขี่ม้ารอบๆด้วยค่ะ

น่าไปเนอะะ เราเองก็อยากไปค่ะ ไว้ถ้าได้ไปญี่ปุ่นจะไปแน่นอนคะ ยังไงวันนี้เราจะขอสรุปคำศัพท์หลักๆที่ควรจะจำไปใช้จากบทความนี้อีกทีหนึ่งนะคะ

位置      面積      単体      台地      中央

จำได้หมดหรือยังเอ่ย ถ้ายังจำไม่ได้ก็ย้อนขึ้นไปดูข้างบนนะคะ

วันนี้เราก็ขอตัวไปนอนก่อนนะคะะ แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่า :)

ข้อมูลภาษาญี่ปุ่นจาก http://www.aso.ne.jp/

วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2558

Unit 13 : 伯父 VS 叔父 VS 小父

こんにちは~
วันนี้กลับมาพบกับคำศัพท์ 漢語 ที่น่าสนใจกันอีกนะคะ วันนี้คำที่จะนำเสนอไม่ยากเลยค่ะ นั่นก้คือคำว่า 



 伯父    叔父    小父



ทั้งสองคำอ่านว่า おじ มาจาก おじさん นั่นเองค่ะ มันเขียนเป็นอักษรคันจิได้ 3 แบบค่ะ แต่ว่าความหมายจะต่างกันนะคะ 


① 伯父 (おじ)= พี่ชายของพ่อหรือแม่ ในภาษาไทยจะใช้คำว่า "ลุง" นั่นเองค่ะ 
叔父 (おじ)= น้องชายของพ่อหรือแม่ ในภาษาไทยเรียกว่า "อา" นั่นเองค่ะ
③ 小父 (おじ)=  อันนี้จะใช้เวลาเรียกผู้ชายที่มีอายุมากกว่าโดยไม่เกี่ยวว่าจะเป็นญาติเราหรือไม่ เป็นคำเรียกทั่วๆไป เช่น เราอาจจะเรียกผู้ชายมีอายุที่กำลังขายกับข้าวว่า คุณลุง หรือ 小父さん ซึ่งก็เหมือนกับที่ไทยเลยละคะ ในกรณีนี้เราก็จะคันจิตัวนี้ค่ะ 

คำว่า 伯母 กับ 叔母 ก็เหมือนกันค่ะ

伯母(おば)พี่สาวของพ่อหรือแม่ ในภาษาไทยคือ "ป้า" นั่นเองค่ะ
叔母(おば)น้องสาวของพ่อหรือแม่ ในภาษาไทยคือ "น้า" นั่นเองค่ะ
小母(おば)=  ผู้หญิงที่มีอายุซึ่งไม่เกี่ยวว่าจะเป็นญาติเราหรือไม่ เป็นคำเรียกทั่วๆไป

คิดว่าคำเรียกญาติแบบนี้น่าจะมีประโยชน์ในการเขียนเรียงความหรือบทความอะไรต่างๆมากเลยนะคะ เพราะแต่เขียนคันจิให้ถูกตัวก็ไม่ต้องอธิบายเลยว่าเป็นพี่หรือน้องของพ่อแม่ หรือเป็นแค่ลุงป้าที่ไม่ใช่ญาติของเราจริงๆ ยังไงก็ลองจำไปใช้ดูนะคะ 

ก่อนจะจากกันอยากจะแนะนำอีกคำหนึ่งค่ะ มันมีคำว่า 「オジサン」 ที่เขียนด้วยตัวคาตาคานะแบบนี้ด้วยค่ะ เป็นชื่อเรียกของปลาชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า オジサン ก็เพราะว่า มันมีหนวด ดูแล้วคงเหมือนคุณลุงเลยเรียกแบบนี้ หน้าตาของปลาเป็นแบบนี้นะคะ
วันนี้สั้นๆพอเนอะ เจอกันใหม่ครั้งหน้านะคะ :)
また会いましょう~

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก http://ameblo.jp/planet-rs/entry-10530431548.html

วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558

Unit 12 : カラオケ個室にも気をつけてね!

สวัสดีค่ะะ~~

วันนี้เรากลับมาดูคำศัพท์ที่ 漢語 กันนะค่ะ หลังจากที่ไม่ได้อัพคำศัพท์ใหม่ๆมานาน =..=
ก่อนหน้านี้เราเคยนำเสนอข่าวธุรกิจไปครั้งหนึ่งเนอะ วันนี้ก็จะขอนำเสนอคำศัพท์ที่อยู่ในข่าวเหมือนกัน แต่เป็นข่าวโจรกรรมค่ะ คำศัพท์บางคำอาจจะเคยเจอกันแล้วในวิชาการอ่านภาษาญี่ปุ่นเทอมที่แล้ว แต่คิดว่าหลายคนก็คงลืมกันไปบ้างแล้ว (เราก็เหมือนกัน 555)

 ข่าวนี้เอามาจากในแอพริเคชั่นไลน์ เป็นข่าวญี่ปุ่นสรุปสั้นๆที่เขาจะส่งมาให้ทุกวัน  ซึ่งทั้งสั้นและเข้าใจง่ายด้วยค่ะ และสามารถคลิกลิงค์ไปอ่านข่าวยาวต่อได้ ใครสนใจลอง Add Friend เข้าไปในไลน์ได้ในคะ ชื่อว่า Line news ค่ะ  ข่าวที่จะให้ดูวันนี้เป็นข่าวของวันที่ 26/4/58 เป็นข่าวสั้นๆแบ่งเป็น 3 ย่อหน้านะคะ มาดูกันค่ะ!

「60代男性にカラオケ個室で昏睡強盗、73歳女を逮捕」

 睡眠導入剤入りのビールで眠らせた男性から現金を奪ったとして25日、昏睡強盗容疑で、大阪・東成区の無職の女(73)が逮捕されました。

----------------------------------------------------------------------
Note : ดูย่อหน้านี้กันก่อน ย่อหน้านี้จะเห็นว่ามีแค่ประโยคเดียวแต่คำขยายเยอะมาก ต้องดูให้ดีๆนะคะว่าประธานคือใคร 
睡眠導入剤 すいみんどうにゅうざい)หมายถึง ยานอนหลับ ถ้าจะบอกว่าเบียร์ที่ใส่ยานอนหลับ ก็จะกลายเป็น 睡眠導入剤入りのビール ค่ะ
・ 昏睡強盗 (こんすいごうとう)การขโมยของโดยเจตนาโดยที่ทำให้อีกฝ่ายอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ซึ่งก็คือ การทำให้หลับนั้นเองค่ะ ซึ่งคำนี้มีอธิบายอยู่ในย่อหน้าที่ 3 ด้วยนะคะ
・ 容疑 (ようぎ)หมายถึง ข้อกล่าวหา 
・ 無職 (むしょく)หมายถึง ว่างงาน ไม่มีงานทำ
・ 逮捕 (たいほ)する หมายถึง จับกุม
----------------------------------------------------------------------

 容疑は1月14日夜~翌朝にかけ、大阪市のカラオケ店個室で、60代の無職男性に睡眠導入剤入り缶ビールを飲ませて眠らせ、現金3万円と携帯電話を奪った疑い。女は容疑を否認しています。

----------------------------------------------------------------------
Note : 
否認(ひにん)หมายถึง การปฏิเสธ ดังนั้น 容疑を否認する เลยหมายถึง ปฏิเสธข้อกล่าวหา
----------------------------------------------------------------------

 昏酔強盗は、人の意識作用に障害を生じさせ、反抗できない状態に陥れて財物盗取すること。法定刑強盗致死傷罪等の適用において、強盗罪と同様に扱われます。

----------------------------------------------------------------------
Note : 
作用(さよう) หมายถึง การกระทำ,การปฏิบัติการ  คำว่า 意識作用 จึงหมายถึงการกระทำที่มีสติ หรือก็คือจงใจทำนั่นเองค่ะ 
反抗 (はんこう)หมายถึง การต่อต้าน การคัดค้าน
財物(ざいぶつ・ざいもつ)หมายถึง ทรัพย์สิน
盗取(とうしゅ)する  หมายถึง ลักทรัพย์, ขโมย
法定刑(ほうていけい)หมายถึง บทลงโทษทางกฎหมาย
強盗致死傷罪(ごうとうちししょうざい)หมายถึง ความผิดที่ถูกกำหนดในกฎหมายอาญา 240 ประการ
適用 (てきよう)การนำ(กฎ)มาใช้  ตัวอย่างเพิ่มเติม เช่น あなたはこの規制すべての場合適用するわけにはいかない。เธอไม่สามารถนำกฏนี้มาใช้ได้กับทุกสถานการณ์หรอกนะ
----------------------------------------------------------------------

บทความสั้นนิดเดียวแต่ก็ได้คำศัพท์เยอะแยะเลยเนอะ แถมเข้าใจง่ายด้วย อาจจะจำยากหน่อยนะคะ แต่คิดว่าถ้าลองไปฝึกอ่านข่าวพวกนี้เยอะๆก็จะจำได้เอง อย่างน้อยมาดูครั้งนี้ก็ทำให้รู้ว่ามันมีศัพท์ประมาณนี้ด้วยนะ แล้วค่อยๆจำไปก็ได้ค่ะ

ยังไงวันนี้ขอจบลงเพียงเท่านี้ก็พอ เดี๋ยวมันจะเยอะเกินรับไหวเนอะ  แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้านะคะ :)

ที่มาของข่าว : http://news.line.me/issue/social/6e24c10445f4

วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558

Unit 11 : I can change (New me)

สวัสดียามเย็นค่า こんばんは!
ก่อนจะกลับไปสอนคำศัพท์ 漢語 บทนี้ขอพูดถึงเรื่อง story telling อีกครั้งหนึ่งนะคะ
หลังจากที่ได้ลองพูดสดไปในครั้งแรก นำไปเขียนใหม่ให้ถูกต้องในครั้งที่ 2 และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 อาจารย์ให้ลองพูดใหม่อีกรอบแล้วอัดเสียงค่ะ เพื่อดูว่าเราพัฒนาขึ้นหรือเปล่า
ถ้างั้น มาดูกันค่ะว่าเราพัฒนาขึ้นบ้างหรือเปล่า  Let's go!

------------------------------------------------------------------------

このストーリーのキャラックターは(はい)赤ちゃんと犬がいるですね。(はい)あのう、赤ちゃんは「今日は何を遊んだらいいです…いいかな」と思って(はい)そして、犬寝ているのを見ました。その時「あっ、そうだ!今日犬に乗ろう」と思いました。(はい)だが、あのう、すると、赤ちゃんは犬の方にはいはいして近づいてきました。そして、あのう、突然犬は目を目覚ます。(ああ)その時、赤ちゃんは驚きましたね。(へー)そして、(はい)あのう、赤ちゃんは「やばい!犬は気がついてき…気がついてしまいました(に気づかれてしましまた ดีกว่า)。これなら、犬乗ろう…乗るのはできない乗れなくなるでしょ…でしょうね」と思って、で、赤ちゃんは犬の方…の…の…後ろの方に行くことにしまった…しました。(ああ)そして、赤ちゃんは犬の後ろに着くと、「あっ!どうしてまた顔なの?」と思って、また犬の顔と、あのう…せー…わせてしまいました。(ああ)実は、その…あのう…赤ちゃんははいはいしている…後ろにはいはいしているときに、犬はかゆいので、あのう…犬は頭をかいてから、あのう向きの方に寝るに変わってを変えて(ああ)ねー…寝ましたと思います。はい、それは私たちにとっては面白くないですが、あのう、まだ赤ちゃんなので、このストーリーは、あのう、面白い思っています(はい)

-------------------------------------------------------------------------

ขีดสีน้ำเงิน = คือที่เราพูดไป
ขีดสีแดง = อาจารย์แก้กลับมาให้อีกครั้ง
วงเล็บสีเทา = あいづち ของเพื่อน

 ★ สิ่งที่พัฒนาขึ้น ★

   จะเห็นได้ว่าครั้งนี้เราพูดได้ดีกว่าครั้งแรก(ใน unit 9 : I can change (myself) )เยอะเลยค่ะ ชมตัวเอง 555 คืออาจจะยังไม่ดีทีเดียว แต่เราคิดว่ามันฟังรู้เรื่องขึ้นเยอะเลยค่ะ ครั้งแรกนี่พูดไม่เป็นประโยคเลยค่ะโดยเฉพาะคำว่า  あのう จะเห็นว่ามันลดลงมาก ในช่วงแรกเราพยายามจะไม่ใช้ แต่หลังๆเริ่มหลุดไม่ได้คุมตัวเองเลยเริ่มกลับมาเยอะ จึงคิดว่าจากนี้ไปต้องพยายามมีสติเวลาพูดให้มากขึ้นจะได้ใช้ได้น้อยลงกว่านี้อีก และเนื่องจากรู้คำศัพท์จากที่อาจารย์สอนมากขึ้นเลยสามารถนำศัพท์เหล่านั้นมาใช้อธิบายได้ถึงแม้จะมีใช้ผิดอยู่บ้างก็ตาม แต่ก็รู้สึกว่าการใช้คำศัพท์หลากหลายขึ้น รวมถึงใช้คำสันธานหลากหลายขึ้นด้วย แต่บางทีก็ยังเผลอใช้ そして อยู่หลายครั้งเหมือนกันค่ะ นอกจากนี้เรายังพยายามสื่อสารกับผู้ฟังไปด้วยโดยการใช้ ね ซึ่งครั้งที่แล้วไม่มีให้เห็นเลย เหมือนเอาแต่เล่าไปเรื่อยๆมากกว่าเนอะ 

 ★ สิ่งที่ยังต้องแก้ไข ★

   เรายังต้องพยายามคุมตัวเองให้มีสติเวลาพูดมากกว่านี้ และจะต้องพยายามใช้ あのう ให้น้อยที่สุด คิดว่าถ้าทำได้น่าจะทำให้การพูดดูโปรขึ้นเยอะเลยค่ะ 55 และก็ยังต้องแก้พวกเรื่องคำช่วยที่เผลอใช้ そして อยู่ นอกจากนี้จะเห็นได้ว่ายังมีส่วนไวยากรณ์ที่ยังผิดเยอะเหมือนกันค่ะ ต้องพยายามแก้ไขเรื่องนี้เหมือนกัน ส่วนในตอนท้ายที่เราเขียนไปว่า 面白い思っています คือจะพยายามจะบอกว่า สำหรับเด็กคงจะคิดว่าเป็นเรื่องน่าสนใจ แต่ก็เหมือนกับไม่ระบุว่าใครให้ชัดเจน อาจารย์เลยไม่รู้ว่าใคร ครั้งหน้าจะพยายามคุมตัวเองให้พูดรอบคอบกว่านี้นะคะ :)

วันนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้ ครั้งหน้าเรามาพบกับคำศัพท์ 漢語 ใหม่ๆกัน แล้วเจอกันค่า ~~ 

วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558

Unit 10 : I can change (I see)

สวัสดียามบ่ายค่า こんにちは~
วันนี้เราจะมาอัพต่อจากของบล็อคเมื่อวานนี้นะคะ :)

พอหลังจากสัปดาห์ที่อาจารย์ให้พูดด้วยตัวเองแล้ว อาจารย์ก็มาให้ดูตัวอย่างของที่คนญี่ปุ่นเขียน และให้ศึกษาวิธีการเขียนของเขาและคำศัพท์ของเขาคะ แล้วก็ได้ให้ไปลองเขียนแก้สิ่งที่เองพูดไปในครั้งแรกให้ดีขึ้น ซึ่งเราก็ได้แก้ออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ

--------------------------------------------------------------------------

 このストリーストーリーの登場人物は、赤ちゃんと犬です。
 ある日、赤ちゃんが「今日何を遊んだらいいかな」と思っているに、寝ている犬をちらっと見ました。「そうだ!ナイトを白馬に乗っているように、犬に乗って遊ぼう」と思って、静かに犬のところへはいはいをして近づいています。犬の前にたどり着くと、突然犬が目を覚ました。「あっ、やばい。犬に気づかれてしまった。僕が乗るの乗ろうとしていることがわかったら、歩いて逃げるはずきっと逃げてしまうだろう。どうしよう。そうだ!お尻のほうから乗ろう」赤ちゃんはそう思ってぐるりと回って犬の後方へそっとはいはいをしましたしていました。「あれ?なんでまた犬の顔なの?」赤ちゃんは犬の後方へ行くのに、また犬と顔を合わせてしっまて、驚きました。すると、「まさか。もしかして僕の犬お尻がない!?」と不思議に思います。実は、赤ちゃんが犬の後方にはいはいをしたいるしている時に、その犬はかゆいかゆくなったので、自分の後足で顔をかいてから、向きを変えたのです。でも、子供は子どもだから、その赤ちゃんにとってはこの状況はきっと面白いでしょうね。

---------------------------------------------------------------------------

ขีดสีน้ำเงิน = คือที่เราแก้ไป
ขีดสีแดง = อาจารย์แก้กลับมาให้อีกครั้ง

★ สิ่งที่พัฒนาขึ้น 

     จะเห็นได้ว่าเราเปลี่ยนเนื้อหาใหม่หมดเลยค่ะ 55 โดยเอาตัวอย่างของคนญี่ปุ่นมาประยุกต์ใช้ ครั้งแรกที่เราทำ(อยู่ในบล็อคก่อนหน้านี้)ก็ได้อธิบายก่อนเหมือนกันว่ามีตัวละครตัวใดบ้างในเรื่อง เพราะคนฟังจะได้รู้ว่าที่เราจะเล่ามีตัวละครแค่สองตัว แต่ในตอนแรกยังบอกไม่ค่อยเคลียร์เท่าไหร่ เลยเอาสำนวนของคนญี่ปุ่นที่อาจารย์ให้ดูมาประยุกต์ใช้ในการแก้ครั้งนี้ด้วยค่ะ
      ในส่วนเนื้อหา หลังจากที่ได้เรียนรู้สำนวนมากมายจากชีทที่อาจารย์แจกให้เราก็เอามันมาใช้ในการแก้ครั้งนี้ หลายคำมาก เช่น คำที่สงสัยตอนที่ได้ลองพูดครั้งแรก อย่าง กลับหลังหันแล้วคลานไปทางข้างหลังสุนัข จะใช้ประโยคว่า「ぐるりと回って犬の後方へはいはいをしていました」เป็นต้น และได้ใช้คำอื่นๆที่เราเห็นคนญี่ปุ่นใช้บ่อยๆเช่น คำว่า คลาน 「はいはいをする」, คำว่า มาถึง「たどり着く」 เป็นต้น
      นอกจากเรื่องคำศัพท์แล้ว เราก็พยายามแก้ให้เป็นแบบ 視点 เดียวเหมือนกับตัวอย่างหลายๆอันของคนญี่ปุ่น เพราะเรารู้สึกว่ามันจะทำให้คนฟังเข้าใจง่ายขึ้น และไม่สับสนไปมาว่าใครกำลังทำอะไรกันแน่ และเราก็ได้ลองตีความไว้ตอนสุดท้ายด้วยเพื่อให้เรื่องนี้ดูมีอะไรมากขึ้นแต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่เนอะ 55

★ สิ่งที่ยังต้องแก้ไข 

     เยอะแยะเลยค่ะ 55 อย่างเช่น คำง่ายๆเรายังเขียนผิดเลย เช่น ストーリー、している ครั้งหน้าต้องเช็คให้รอบคอบกว่านี้ก่อนส่งเนอะ แล้วก็มีผิดพวกไวยากรณ์อยู่และผิดคำช่วยบ้างนิดหน่อย และตรงคำว่า ナイト ที่อาจารย์ใส่ ?เราอยากจะใช้คำว่าอัศวินแต่ดูเหมือนคำนี้อาจจะไม่ค่อยใช้กันหรือเปล่านะ อาจารย์เลยใส่ ?  คิดว่าควรใช้คำว่า 騎士(きし) น่าจะดีกว่านะคะ และมีตรงสุดท้ายที่เราว่าจะให้ข้อคิดสักหน่อย เราอยากจะบอกว่า เพราะว่าเด็กยังไงก็ยังเด็ก เรื่องแบบนี้เลยดูน่าสนใจสำหรับทารกคนนั้น แต่มาคิดๆดูอีกที มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าสนใจนะ เป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับเด็กทารกคนนั้นมากกว่าค่ะ และก็เหมือนกับคำว่า 子供 กับ 赤ちゃん มันเป็นคนละคำกัน คิดว่าควรจะใช้คำว่า 赤ちゃん อย่างเดียวไปน่าจะดีกว่านะคะ

    จะเห็นได้ว่าพอได้ทำรอบสองแล้วก็มีทั้งส่วนที่พัฒนาและส่วนที่ยังต้องแก้ไขอยู่อีกเยอะเลย แต่เราว่างานในครั้งนี้มีประโยชน์มากๆเลยนะคะ ทำให้เราเห็นตัวเองเวลาพูด ทำให้รู้ในสิ่งที่ตัวเองบกพร่องเพื่อที่จะได้ไปแก้ไขต่อไป และทีนี้เวลาไปเล่าอะไรให้คนญี่ปุ่นฟังเราก็ไม่ต้องกังวลแล้ว เพราะเราก็ได้รู้แนวทางแล้วค่ะ แต่ยังไงก็ยังต้องฝึกฝนอยู่เรื่อยๆนะคะ :)

    วันนี้เราก็ขอตัวไปก่อนนะคะ   さよなら~



วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558

Unit 9 : I can change (by myself)

สวัสดีค่า ไม่ได้พบกันนานเลย お久しぶり~
หลังจากสอบมิดเทอมงานเยอะมาก เลยไม่มีโอกาสได้เข้ามาอัพบล็อคเลย แต่ตอนนี้งานเริ่มเคลียร์ๆไปบ้างแล้ว จากนี้ไปจะทยอยมาอัพบ่อยๆนะคะ (>..<  )

วันนี้จะเป็นบล็อคเกี่ยวกับงาน Storytelling ที่อาจารย์ให้ทำในคาบ App Jp Ling ตั้งแต่เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วนะคะ รายละเอียดของงานคือ อาจารย์ให้ภาพการ์ตูนภาพหนึ่งมา แล้วให้ลองเล่าเรื่องราวในภาพนั้นให้เพื่อนฟัง โดยที่ไม่ได้เพื่อนดูภาพค่ะ ของเราได้หัวข้อ 赤ちゃんと犬 และภาพเป็นแบบนี้ค่ะ

赤ちゃんと犬 


แล้วอาจารย์ให้อัดเสียงและถอดเทปออกออกมา มาดูบทถอดเสียงของเรากันนะคะ

------------------------------------------------------------------------------------------

まず、あのう…犬が一匹…あのう…子供、あっ、赤ちゃんが…一人います。この…ああ…その犬は寝ています。この赤ちゃん…その赤ちゃんは、犬に…犬の前に行って…あのう…犬にの…乗りたいなと思って…思っていました。(はい)そして、あのう…突然犬は起きました。赤ちゃんは…あのう…犬の前と前に合って、あのう…赤ちゃんは驚きました。(驚きました)はい、そして、赤ちゃんはあのう…犬の裏のほうにあのう…乗ろうと…乗ろうと思って、犬の後ろに行きました。その時、あの犬は、か…あのう…かゆい…ははは(私が笑う)…かゆいので、犬は自分のうしら、あっ、後ろのほうに向かってしまいました。その赤ちゃんは…あのう…犬の後ろの、えっえっ、赤ちゃんは犬の後ろに着いた時にあのう…犬はもうなんか…顔、犬のほうの顔はもう…犬…ははは(私が笑う)…犬、犬、犬は、赤ちゃんは…ははは(私が笑う)…あのう…後ろのほうに着いたら、犬はもう。突然この時赤ちゃんはもう…また犬の顔が見てあのう、おどろ、驚きました。わかりましたか。(私と友達が笑う)(つまり、赤ちゃんはどっちに行きましたか。)犬の後ろのほうに行きましたが、かゆいので、犬はあのう…最初のほうじゃなくてあのう…変わってあのう…今はまた目と目になった。(ああ、わかりました)

-------------------------------------------------------------------------------------------

วงเล็บสีเทา = あいづち ของเพื่อน

รู้เรื่องกันไหมคะ 55
あのう เต็มไปหมดเลยเนอะ พูดก็ติดๆขัดๆอีก แล้วก็คิดว่าถ้าไม่ได้ดูภาพก่อนก็อาจจะไม่รู้เรื่องเหมือนกัน และเนื่องจากว่าเป็นครั้งแรกด้วย เราก็ทั้งตื่นเต้น ทั้งนึกศัพท์ไม่ออก แล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะใช้ศัพท์คำไหนดีในการอธิบายลักษณะท่าทางนี้ เช่น ตอนที่มาสบตากับเด็กพอดี ไม่รู้ทำไมตอนนั้นเราถึงใช้คำว่า 犬の前と前に合って ไป คิดว่าจริงๆแล้วน่าจะต้องการพูดว่า 目と目 มากกว่าแต่ดันพูดผิด 555 ตอนที่พูดอันนี้เสร็จเราเลยอยากรู้ว่าถ้าอยากจะบอกว่าประมาณว่าสบตากัน หันหน้ามาเจอกันพอดีเป๊ะ จะพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นว่าอะไร คำว่าคลานไปข้างหลังสุนัข และสุนัขกลับตัวไปนอนอีกฝั่งจะพูดยังไงดี ซึ่งในบทต่อไปเราจะมาดูกันว่าพออาจารย์ได้สอนคำศัพท์เหล่านั้นมาแล้วเราจะสามารถแก้ให้ได้ดีขึ้นหรือเปล่า

วันนี้ขอตัวไปก่อนนะคะ  バイバイ~

วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558

Unit 8 : 内省 2

วันนี้เราจะมา 内省 กันว่าตั้งแต่บทแรกจนถึงบทนี้มีอะไรที่เราได้ลองไปใช้บ้าง ใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง

★ --------------------------------------------------------------------------------------- 

Unit 1 : 凹凸  

คำศัพท์ที่เราสอนไปในบทนี้คือคำว่า 凹凸 กับเพิ่มเติมคำว่า 凸凹 ใช่ไหมคะ อันนี้อาจจะไม่ได้ลองเอาไปใช้จริงๆ แต่ว่าเราได้ยินอาจารย์ญี่ปุ่นที่มาสอน 書道 พูดว่าให้เขียนลงบนกระดาษด้านที่มัน 凸凹 นะ (แต่พูดเป็นภาษาญี่ปุ่นนะคะ) พอได้ยินแล้วก็ อ่อ เลยค่ะ ก็คือด้านที่มันขรุขระนั้นเอง ความรู้สึกในตอนนั้นคือ รู้สึกดีมากค่ะ เพราะถ้าเราไม่ได้ทำบล็อคนี้ขึ้นเราอ่านจะฟังไม่ออก ต้องไปเปิดพจนานุกรมหรือถามเพื่อนเอา
★ --------------------------------------------------------------------------------------- 

Unit 3 : 合否

ในบทนี้เราได้สอนเกี่ยวกับคำคันจิที่มันตรงกันข้ามกันเนอะ เราได้ลองเอาไปใช้จริงด้วย ใช้คำว่า 要否 ไปค่ะ
คือเราได้เขียน 学習計画書 หรือ Study Plan เพื่อจะไปส่งสมัครสอบทุนรัฐบาลญี่ปุ่นมาค่ะ เราก็เขียนไปว่า

ビジネスメールにおける「いつもお世話になっております」の表現に興味を持つきっかけになったのは、「日本人が気づいていないちょっと変な日本語」という本を読んだからである。この本によると、ビジネスメールの書き出しでよく使われる「いつもお世話になっております」という表現を不快に感じる読み手がいるという。なぜなら、はんこを押すように毎回使って送るのは、書き手の誠実さを感じないのである。また、会ったことがない人に使うのは失礼なことだが、ビジネスメールではよく使うという。さらにインターネットで調べると、この表現は必要か不必要かという疑問を抱いた人が多くいる。この表現の要否に関する調査を行ったウェブサイトも見つけた。

เราใช้คำว่า 要否 ไปเพราะจะได้ไม่ต้องกล่าวคำว่า 必要か不必要か ซ้ำอีกครั้งหนึ่ง แต่พอให้อาจารย์กนกวรรณช่วยเช็คให้อาจารย์ก็แก้ให้มาเป็นแบบนี้ค่ะ

ビジネスメールにおける「いつもお世話になっております」の表現に興味を持つようになった理由は日本人が気づいていないちょっとへんな日本語という本を読んだからである。この本によると、ビジネスメールの書き出しでよく使われる「いつもお世話になっております」という表現を不快に感じる読み手がいるという。なぜなら、はんこを押すように毎回使って送るのは、書き手の誠実さを感じないからである。また、会ったことがない人に使うのは失礼なことだが、ビジネスメールではよく使うという。さらにインターネットで調べると、この表現は必要か不必要かという疑問を抱いた人が多くいる。この表現の要否に関する調査を行ったウェブサイトも見つけた。

อาจารย์บอกว่าสามารถใช้ 「表現の要否」 ได้ค่ะ เย้~ แต่ประโยคนี้ถ้าเปลี่ยนเป็นคำว่า「表現の必要性の有無(うむ)」จะเข้าใจมากกว่าค่ะ

พอได้ลองใช้คำนี้ก็รู้สึกดีค่ะ เพราะเหมือนกับว่าไม่ต้องพูดคำว่า 必要か不必要か ซ้ำอีกให้มันยาว แค่คำนี้ก็สื่อความได้แล้ว เลยทำให้มีกำลังใจในการอัพบล็อคต่อ เพราะอย่างน้อยสิ่งที่เราอัพไปมันมีประโยชน์จริงๆค่ะ
★ --------------------------------------------------------------------------------------- 

Unit 6 : 雪

หลังจากอัพบทนี้ไป เราก็ไปเจอคำว่า 吹雪 ในตัวอย่างข้อสอบทุนรัฐบาลญี่ปุ่นค่ะ เขาได้เขียนคำอ่านของคันจิตัวนี้ พอเห็นแล้วก็ตอบได้เลยค่ะ รู้สึกดีใจมากค่ะ ที่เราอัพไปมันก็ช่วยเราในเรื่องการทำข้อสอบด้วย
★ --------------------------------------------------------------------------------------- 

บล็อคของเพื่อนๆ

นอกจากนี้นะคะ บล็อคของเพื่อนๆที่เราไปอ่านมาก็มีประโยชน์มากเหมือนกันค่ะ
อย่างตอนนั้นไปอ่านบล็อคของเพื่อนคนหนึ่งที่ทำเรื่องเกี่ยวกับคำศัพท์วันตรุษจีน 
แล้วช่วงนั้นก็ลองไปอ่านข่าวญี่ปุ่นเล่นๆก็เจอคำศัพท์เกี่ยวกับตรุษจีนหลายคำตรงกับบล็อคของเพื่อนคนนี้เลยค่ะ ไปเจอคำว่า 春節 พาดหัวข่าว เห็นแล้วรู้เลยค่ะว่าข่าวเกี่ยวกับงานเทศกาลตรุษจีน ไม่ต้องเสียเวลาไปเปิดพจนานุกรมเลย ซึ่งพอมันได้ใช้จริงๆแบบนี้ เราก็เลยชอบเขาไปอ่านบล็อคของคนอื่นมากค่ะ
★ --------------------------------------------------------------------------------------- 

ยังไงจากนี้ก็จะพยายามอัพบล็อคที่มีประโยชน์และใช้ได้จริงๆ เพื่อพัฒนาตัวเองอีกนะคะ และหวังว่าจะได้ประโยชน์กับเพื่อนๆเช่นกันค่ะ ♪

วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2558

Unit 7 : 指

สวัสดีค่า กลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนาน
วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องของนิ้ว หรือ 指(ゆび)
อยากรู้ไหมคะว่าคนญี่ปุ่นเขาเรียกนิ้วแต่ละนิ้วว่าอะไรกัน
มาดูกันค่ะ!


① 親指(おやゆび) = นิ้วโป้ง 
② 人差し指(ひとさしゆび) = นิ้วชี้
③ 中指(なかゆび) = นิ้วกลาง
④ 薬指(くすりゆび) = นิ้วนาง
⑤ 小指(こゆび) = นิ้วก้อย

ชื่อเรียกไม่ค่อยยากใช่ไหมคะ แต่ความหมายของชื่อแต่ละนิ้วนี่แปลกๆทั้งนั้นเลย อย่างทำไมนิ้วนาง เรียก 薬指 กันนะ เกี่ยวอะไรกับยาหรือเปล่า เราก็เลยลองไปเสิร์ชดูว่าที่มาของชื่อแต่ละนิ้วคืออะไร ซึ่งแต่ละคนก็บอกไม่เหมือนกันค่ะ จะต่างกันนิดหน่อย แต่จะสรุปโดยรวมให้ฟังนะคะ

① 親指 ที่นิ้วโป้งใช้ชื่อนี้ก็เพราะเป็นนิ้วที่ใหญ่สุด และสำคัญที่สุดในบรรดานิ้วอื่นๆ เหมือนกับหัวหน้าครอบครัว ซึ่งก็คือ 親
②  人差し指 อันนี้ก็เหมือนชื่อของไทยค่ะ นิ้วชี้ เพราะว่าเป็นนิ้วที่มักจะใช้ชี้คนหรือสิ่งของค่ะ
③ 中指 อันนี้ก็ตรงๆ นิ้วกลาง เพราะอยู่ตรงกลางค่ะ
④ 薬指 ที่ใช้คำว่า 薬 กับนิ้วนางเพราะว่าสมัยก่อนเวลาคนยาให้ละลายหรือผสมยามักจะใช้นิ้วนี้ค่ะ
⑤ 小指 อันนี้ก็ตรงๆเหมือนกัน เพราะนิ้วก้อยเป็นนิ้วที่เล็กที่สุดค่ะ

พอจะจำกันได้ไหมเอ่ยย

วันนี้ก็สั้นๆเนอะ แล้วพบกันใหม่นะคะ :)

วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Unit 6 : 雪

ช่วงนี้ที่ญี่ปุ่นเป็นช่วงฤดูหนาว
ถ้าใครอ่านข่าวก็จะเห็นข่าวเกี่ยวกับการระวังตัวในหน้าหนาว ข่าวงานโชว์รูปปั้นแกะสลักหิมะออกมาเต็มเลย
วันนี้เราก็เลยอยากจะมาสอนคำศัพท์เกี่ยวกับหิมะกันสักหน่อย ซึ่งมันมีชื่อเรียกค่อนข้างเยอะเลยค่ะ เดี๋ยวเราลองมาดูกันนะคะ

ก่อนอื่นมาดูเสียงอ่านตัวอักษรคันจิ  กันก่อนนะคะ

------------------------------------------------


音読み : セツ
訓読み : ゆき

------------------------------------------------

เรามาเริ่มดูคำศัพท์กันเลยค่ะ!

① 大雪
大雪 คำนี้อ่านได้สองแบบนะคะ คือ おおゆき กับ たいせつ มีความหมายว่า หิมะตกหนัก ค่ะ 
ตัวอย่างเช่น : 休校は大雪のためであった。
                     โรงเรียนปิดเนื่องจากหิมะตกหนัก

② 積雪
積雪 อ่านว่า せきせつ ค่ะ มีความหมายว่า หิมะที่ตกทับถมกัน ค่ะ
ตัวอย่างเช่น : 積雪は約30センチだ。
                      หิมะตกทับถมกันลึกประมาณ 30 เซนติเมตร

③ 降雪
降雪 อ่านว่า こうせつ หมายถึง หิมะที่ตก, การเกิดหิมะตก ค่ะ
ตัวอย่าง: 山間部に降雪があった。
               บนภูเขามีหิมะตก

④ 吹雪
吹雪 อ่านว่า ふぶき หมายถึง พายุหิมะ ค่ะ ถ้าเติมไปด้วยเป็น 猛吹雪(もうふぶき)จะหมายถึงพายุหิมะที่รุนแรงค่ะ
ตัวอย่าง : 外は吹雪だ。 
                ข้างนอกมีพายุหิมะ
                猛吹雪がようやくおさまった。
                ในที่สุดพายุหิมะที่รุนแรงก็สงบลงแล้ว

⑤ 雪崩
คำนี้ จะอ่านแปลกหน่อยนะคะ 雪崩 อ่านว่า なだれ แปลว่า หิมะถล่ม ค่ะ
ตัวอย่าง : 谷川岳で大きな雪崩が起こった。
                เกิดหิมะถล่มขึ้นที่ภูเขาทานิกาวะ

⑥ 粉雪
粉雪 อ่านว่า こなゆき แปลว่า หิมะที่เป็นผงๆละเอียดๆ แบบภาพเลยค่ะ

⑦ 雪女と雪男
   
    ทุกคนน่าจะรู้จักคำว่า 雪女(ゆきおんな)กันแล้วเนอะ ก็แปลว่า นางหิมะ หรือ ปีศาจหิมะ ที่ปรากฏอยู่ในตำนานของญี่ปุ่น แล้วรู้จักคำว่า 雪男(ゆきおとこ)กันหรือเปล่าคะ คำว่า 雪男 ก็หมายถึง ตัวเยติ ซึ่งก็คือตัวลิงยักษ์ซึ่งเชื่อกันว่าอาศัยอยู่บนเทือกเขาหิมาลัยค่ะ เคยรู้กันมาก่อนไหมคะ เราเองก็เพิ่งรู้เหมือนกันค่ะ 55

    คำศัพท์ที่เกี่ยวกับ ก็ยังมีอีกเยอะเลยนะคะ ให้มาลงหมดก็กลัวจะเยอะเกินไป ใครมีคำศัพท์อะไรที่เกี่ยวกับ  แล้วอยากจะแนะนำหรือสงสัยอะไรก็คอมเม้นมาได้นะคะ

    ก่อนจะจากกัน ขอสรุปคำศัพท์วันนี้หน่อยนะคะ ลองดูสิค่ะ ว่าที่อ่านมาตอนนี้เราจำความหมายกับเสียงอ่านได้หมดหรือยังเอ่ย


แล้วพบกันใหม่นะคะ :)

วันศุกร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Unit 5 : マック、やばいよ!

สวัสดีค่าาา

วันนี้เรามาเปลี่ยนบรรยากาศการเรียน 漢語 บ้างนะคะ  เราจะมาเรียน 漢語 จากข่าวกันค่ะ เย้~~~
เนื้อหาของข่าวที่จะมาสอนจะเป็นข่าวธุรกิจค่ะ อย่าเพิ่งปิดบล็อคหนีไปนะคะ ลองมาอ่านดูก่อน เราจะเอาแค่นิดเดียวค่ะ กลัวว่าถ้าลงมายาวๆ คิดว่าคงจำกันไม่ไหว =..= วันนี้เลยเอาแค่ส่วนเกริ่นของข่าวมาค่ะ

หัวข้อข้าวในวันนี้คือ...

「マクドナルド売り上げ 先月は38%減少」

どうして私のレストランに食べに来ないのかな…
ข่าวนี้เป็นข่าวเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมาเองค่ะ เอามาจากเว็บของ NHK
ทุกคนน่าจะรู้จัก マクドナルド กันอยู่แล้วเนอะ มันก็คือ ร้าน  McDonald นั่นแหละค่ะ
ส่วน 売り上げ(うりあげ) คือ ยอดขาย และ 減少(げんしょう) ก็คือ การลดลง ค่ะ สองคำนี้ไม่ยาก แต่ก็เป็นคีย์เวิร์ดสำคัญของข่าวเลยค่ะ จากหัวข้อก็คงรู้กันแล้วว่ามันเป็นยังไง เพราะฉะนั้น เปลี่ยนเรื่องค่ะ อะไม่ใช่ 55 มาต่อกันค่ะ

「日本マクドナルドホールディングス」は、商品への異物混入相次いで明らかになった影響などで、先月の売り上げが前の年の同じ月を38.6%下回って、1か月間としては株式上場以降、最大の落ち込みとなりました。」

พอจะแปลออกกันไหมคะ คำว่า「日本マクドナルドホールディングス」หมายถึง บริษัทแมคโดนัลด์ญี่ปุ่นที่ถือหุ้นรายใหญ่ค่ะ มาจากคำว่า "McDonald's Holdings Company (Japan), Ltd." ค่ะ  ลองมาดูคำศัพท์กันก่อนดีกว่า

● 異物混入 (いぶつこんにゅう)
    -  異物 (いぶつ)= สิ่งแปลกปลอม
       -  混入 (こんにゅう)= การใส่ผสมลงไป, การเจือปน
       เพราะฉะนั้น 異物混入 จะหมายถึง การปนเปื้อนสิ่งแปลกปลอม 
● 株式 (かぶしき)= หุ้น 
       - ถ้าเป็น 株式市場 (かぶしきいちば)ก็จะแปลว่า ตลาดหลักทรัพย์ ค่ะ
● 上場(じょうじょう)= การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

นอกจาก 漢語 ยังมีคำศัพท์อื่นๆที่อยากแนะนำหน่อยนะคะ เพราะจะเห็นกันบ่อย คือ

● 相次いで(あいついで)= อย่างต่อเนื่องกัน 
● 下回る(したまわる)= ลดลง, ต่ำกว่า  ⇔ 上回る(うわまわる)

ศัพท์ค่อนข้างยากเลยนะคะ แต่พอแปลคำศัพท์ได้ก็อ่านได้ง่ายขึ้นเลยใช่ไหมคะ เดี๋ยวมาลองดูคำแปลที่เราแปลไว้กันนะคะ อาจจะแปลไม่ค่อยดี แต่ก็กำลังฝึกนะคะ ผิดพลาดตรงไหนบอกได้ค่ะะ

"ยอดขายเดือนที่แล้วของบริษัทแมคโดนัลด์ญี่ปุ่นต่ำลงกว่าปีที่แล้วในเดือนเดียวกันถึง 38.6 % เนื่องด้วยอิทธิพลที่เห็นได้ชัดจากที่มีการปนเปื้อนสิ่งแปลกปลอมในสินค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นช่วงหนึ่งเดือนที่ตกต่ำที่สุดหลังจากที่มีจดทะเบียนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์"

วันนี้ก็ขอตัวไปก่อนนะคะ แล้วพบกันใหม่ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

อ้างอิงข่าว : http://www3.nhk.or.jp/news/html/20150205/k10015241371000.html

วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Unit 4 (内省) : 研究の説明

こんにちは~

วันนี้เราจะมาเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้างนะคะ  เมื่ออาทิตย์ที่แล้วอาจารย์ได้มอบหมายงานมาให้อธิบายงานวิจัยของตัวเองที่จะนำไปใช้ในการแนะนำตัวเองค่ะ ซึ่งงานวิจัยที่ใช้อธิบายนี้ไม่ได้ทำจริงแต่อย่างใดนะคะ คิดขึ้นมาเองค่ะ เพราะถ้าคิดจะทำหัวข้อนี้คิดว่าแค่นี้อาจจะไม่ผ่านง่ายๆหรอกค่ะ =..=
พอพิมพ์แล้วอาจารย์ก็ให้เราเอาไปลงใน lang-8 เพื่อให้คนญี่ปุ่นช่วยเช็คให้ ซึ่งเราก็ได้ทำเรียบร้อยแล้วและจะมารายงานผลให้ฟังค่ะ

ก่อนอื่นเลยเราพิมพ์ไปว่าอย่างนี้นะคะ  (รูปอาจจะใหญ่หน่อยนะคะ ตัวอักษรมันเล็ก ต้องขยายหน่อย)


แล้วคนญี่ปุ่นที่มาแก้ให้คนแรกก็คือ คุณ tiryaki ค่ะ


จะเห็นได้ว่าใช้ประโยคแรกที่คุณ tiryaki แก้เขาแก้จาก 言えます เป็น 言います มาให้ค่ะ ซึ่งอันนี้เราก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นะคะว่าทำไมใช้ 言えます ไม่ได้ แต่ดูแล้ว 言います ก็เหมาะกว่าจริงๆด้วย เพราะจะเห็นว่า เวลาที่เราจะบอกว่า สิ่งนี้เรียกว่า... ก็จะใช้ 言います ค่ะ ซึ่งตอนเขียนเราก็ลืมคำนึงถึงจุดนี้ไปสนิทเลย 

ประโยคที่สองที่เขาแก้มาให้ จะเห็นว่าเขาเติมคำว่า 私の เข้าไป น่าจะเป็นเพราะควรระบุให้ชัดเจนว่าเป็นงานวิจัยของใครจะดีกว่า และのことก็ไม่จำเป็นต้องใส่  นอกจากนี้เขาก็ได้ใส่คำว่าみえるกับ読み取れるเข้ามาให้แทน反映した ซึ่งตอนนั้นเราก็คิดว่า 反映した มันใช้ไม่ได้หรอ เพราะอยากได้ความหมายเดียวกับในภาษาไทย ว่าสะท้อน แต่ที่เขาแก้มาให้ก็ใกล้เคียงและก็ดูน่าจะโอเคกว่า 

และประโยคสุดท้ายที่เขาแก้มาให้เป็นประโยคที่บอกว่า ถ้าผิดก็ขอช่วยแก้ให้ด้วย เราใส่ไปแค่รูป ~た แต่ที่ถูกคือ ~ていた  ก็รู้สึกอายนิดหน่อยค่ะ เพราะแค่ประโยคนี้ยังผิดเลย ประโยคอื่นไม่ผิดก็ไม่แปลก 555 

เราคิดว่าที่คุณ tiryaki ดีมากเลยค่ะ และก็น่าเชื่อถือได้ด้วยเพราะมีคนมาเห็นด้วยตั้ง 1-2 คน  คราวนี้มาดูของคนญี่ปุ่นอีกคนหนึ่งที่ชื่อว่า Yuma กันดีกว่า


คุณYuma  แก้คำว่า こと เป็นคำว่า 目的 มาให้ ซึ่งทำให้ฟังดูดีขึ้นมาเยอะเลยค่ะ และคุณYumaก็ให้ใช้คำว่า 反映 ได้ แต่แก้คำช่วยเป็น に กับผันเป็น しているมาให้ แสดงว่าคำว่า 反映する ก็สามารถใช้ได้ในกรณีนี้เพียงแต่ต้องแก้วิธีการผันกับคำช่วยเท่านั้นเองค่ะ นอกจากนี้คุณYuma ยังลงท้ายมาว่าให้สู้ๆกับงานวิจัยด้วยค่ะ น่ารักมากเลย ^^ 

คราวนี้มาดูกันที่คนสุดท้าย คุณ Goma ค่ะ


คุณGoma บอกให้ตัด の ออก ซึ่งเราก็ลองไปเสิร์ชในอินเตอร์เน็ตดู ก็เหมือนตามที่คุณGomaบอกเลยค่ะ คำนี้ไม่ต้องใส่ の ใช้ติดกันได้เลยเป็น 日本最古 ค่ะ 

คุณGomaยังลงท้ายมาด้วยนะคะว่า ภาษาญี่ปุ่นที่ใช้เลเวลสูงจังเลย สุดยอด แต่เราก็ไม่รุ้ว่ามันสูงตรงไหนนะคะ ยังไม่รู้สึกว่าสุดยอดเลย บางทีเขาอาจจะชมตามมารยาทรึเปล่าน้า แต่ยังไงก็ดีใจอยู่ดีค่ะ 55

จากการทำงานครั้งนี้นะคะ ทำให้ได้เห็นว่าภาษาญี่ปุ่นเราบกพร่องตรงไหน ซึ่งที่เห็นได้ชัดในครั้งนี้ก็คือเรื่องการเลือกใช้คำ และเรื่องไม่ระวังเรื่องการผัน ซึ่งครั้งหน้าก็ต้องพยายามแก้ค่ะ จะได้เขียนดีๆขึ้น
และเราก็รู้สึกดีใจ ที่มีคนญี่ปุ่นมาแก้ให้ตั้งหลายคน ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่เราเคยไปแก้ภาษาไทยให้เขาแหละค่ะ เว็บไซต์นี้มันมีประโยชน์มากจริงๆเลยนะคะเนี้ย  

วันนี้ก็ขอจบแค่นี้นะคะ ยาวไปหน่อยเนอะครั้งนี้ ครั้งหน้าจะมาเพิ่ม 漢語 กันอีกนะคะ

เจอกันใหม่ค่ะ :)




วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Unit 3 : 合否

สวัสดียามดึกค่ะ

วันนี้ไปเจอคำศัพท์ 漢語 ที่น่าสนใจมาค่ะ นั่นคือ คำว่า 合否 ตามที่เห็นอยู่บนหัวข้อเรื่องเลยค่ะ

合否 (ごうひ)

มีความหมายว่า 「合格と不合格。また、合格か不合格かということ」 ให้แปลก็คือ การผ่านและ/หรือไม่ผ่าน นั่นเองค่ะ เป็นคันจิที่เหมือนเอาคำที่มีความหมายตรงกันข้ามคือคำว่า 合格 ที่แปลว่า สอบผ่าน กับ 不合格 ที่แปลว่า สอบไม่ผ่านมารวมกันนั่นเองค่ะ โดยใช้เพียงแค่ตัวอักษรคันจิสองตัวก็เข้าใจแล้ว 

ตัวอย่างของการใช้คำนี้นะคะ เช่น 
試験の合否は三日後に通知します。
ไม่ว่าจะสอบผ่านหรือไม่ทางเราจะแจ้งให้ทราบในสามวันหลังจากนี้

นอกจากคำว่า 合否 ยังมีคำอื่นๆอีกหลายคำนะคะ ที่มีลักษณะแบบนี้ ซึ่งเราเองก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะว่าคำเหล่านี้มีชื่อเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นหรือเปล่า เดี๋ยวจะยกให้ดูเป็นตัวอย่างสัก 3 คำนะคะ

 有無 (うむ) = 有ることと無いこと การมีและไม่มี 
        คำนี้น่าจะเห็นกันบ่อยนะคะ เช่น
        返事の有無にかかわらず出発する。
        จะออกเดินทางไม่ว่าจะมีการตอบกลับมาหรือไม่

② 要否 (ようひ)= 必要か否かということ การจำเป็นหรือไม่จำเป็น 
        ตัวอย่าง เช่น
        手術の要否を判断する。
        ตัดสินใจว่าจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องผ่าตัด

③ 賛否 (さんぴ)= 賛成と不賛成    การเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
        ตัวอย่าง เช่น
        賛否両論
        การวิพากษ์วิจารณ์ที่แยกเป็นสองฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

วันนี้ก็ขอยกเอามาไว้เท่านี้นะคะ

ราตรีสวัสดิ์นะคะ :)


      おやすみなさい♪

วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

Unit 2 : 待望

สวัสดีค่า วันนี้เป็นการอัพบล็อคครั้งที่ 2 แล้วนะคะ คำศัพท์ 漢語 ของวันนี้ก็ยังไม่ค่อยยากมากค่ะ คิดว่าหลายคนอาจจะเคยเห็นกันมาแล้ว แต่คนที่ยังก็จะมาเรียนรู้ไปพร้อมๆกันนะคะ นั่นคือคำว่า

待望 (たいぼう)

พอดีไปเจอมาตอนอ่านบทสัมภาษณ์ของวงนักร้องที่ชอบมาค่ะ เขาเขียนว่า

「いまや国民的J-POPグループとなった“いきものがかり”から、待望のニューアルバム『FUN! FUN! FANFARE!』が到着」

ไหนลองเดาดูสิค่ะว่าคำว่า 待望 แปลว่าอะไร
.
.
แปลว่า การคอยอย่างมีความหวัง หรือตั้งตาคอยนั่นเองค่ะ ตรงๆตามอักษรคันจิเลยเห็นไหมคะ 


เรามาทวนเสียงอ่านตัวอักษรคันจิสองตัวนี้กันสักหน่อยดีกว่า

        音読み:タイ                           訓読み:ま・つ

          音読み:ボウ、モウ              訓読み:のぞ・む

นอกจากนี้ คำว่า 待望 ยังพ้องเสียงกับคำว่า 大望 (たいぼう)ที่แปลว่า ความหวังอันยิ่งใหญ่ ด้วยนะคะ ซึ่งนอกจากสองคำนี้แล้ว ยังอยากจะให้รู้จักคำศัพท์ที่ตามด้วย ~望 ที่เห็นบ่อยๆอีกสักหน่อย

希望(きぼう)อันนี้ทุกคนน่าจะรู้จักกันอยู่แล้ว แปลว่า การหวัง การคาดหวังค่ะ
失望(しつぼう)แปลว่า การผิดหวัง
絶望 (ぜつぼう)แปลว่า การหมดหวัง การสิ้นหวัง **ไม่เหมือนกับคำว่า 失望 นะคะ เพราะ 失望 แค่ผิดหวังเฉยๆ แต่คำนี้คือหมดหวังแล้ว ทำอะไรไม่ได้แล้ว ระวังจะจำสับสนกันนะคะ**
切望(せつぼう)การปรารถนาอย่างแรงกล้า **ตัวคันจิ 切 ไม่มี てんてん นะคะ**

เป็นยังไงบ้างค่ะ ความจริงแล้วคำที่มีตัว  ~望 เนี้ยมีอีกเยอะเลยนะคะ แต่วันนี้เอามาแค่พอประมาณพอ

แล้วเจอกันใหม่ค่ะ :)