วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2558

Unit 13 : 伯父 VS 叔父 VS 小父

こんにちは~
วันนี้กลับมาพบกับคำศัพท์ 漢語 ที่น่าสนใจกันอีกนะคะ วันนี้คำที่จะนำเสนอไม่ยากเลยค่ะ นั่นก้คือคำว่า 



 伯父    叔父    小父



ทั้งสองคำอ่านว่า おじ มาจาก おじさん นั่นเองค่ะ มันเขียนเป็นอักษรคันจิได้ 3 แบบค่ะ แต่ว่าความหมายจะต่างกันนะคะ 


① 伯父 (おじ)= พี่ชายของพ่อหรือแม่ ในภาษาไทยจะใช้คำว่า "ลุง" นั่นเองค่ะ 
叔父 (おじ)= น้องชายของพ่อหรือแม่ ในภาษาไทยเรียกว่า "อา" นั่นเองค่ะ
③ 小父 (おじ)=  อันนี้จะใช้เวลาเรียกผู้ชายที่มีอายุมากกว่าโดยไม่เกี่ยวว่าจะเป็นญาติเราหรือไม่ เป็นคำเรียกทั่วๆไป เช่น เราอาจจะเรียกผู้ชายมีอายุที่กำลังขายกับข้าวว่า คุณลุง หรือ 小父さん ซึ่งก็เหมือนกับที่ไทยเลยละคะ ในกรณีนี้เราก็จะคันจิตัวนี้ค่ะ 

คำว่า 伯母 กับ 叔母 ก็เหมือนกันค่ะ

伯母(おば)พี่สาวของพ่อหรือแม่ ในภาษาไทยคือ "ป้า" นั่นเองค่ะ
叔母(おば)น้องสาวของพ่อหรือแม่ ในภาษาไทยคือ "น้า" นั่นเองค่ะ
小母(おば)=  ผู้หญิงที่มีอายุซึ่งไม่เกี่ยวว่าจะเป็นญาติเราหรือไม่ เป็นคำเรียกทั่วๆไป

คิดว่าคำเรียกญาติแบบนี้น่าจะมีประโยชน์ในการเขียนเรียงความหรือบทความอะไรต่างๆมากเลยนะคะ เพราะแต่เขียนคันจิให้ถูกตัวก็ไม่ต้องอธิบายเลยว่าเป็นพี่หรือน้องของพ่อแม่ หรือเป็นแค่ลุงป้าที่ไม่ใช่ญาติของเราจริงๆ ยังไงก็ลองจำไปใช้ดูนะคะ 

ก่อนจะจากกันอยากจะแนะนำอีกคำหนึ่งค่ะ มันมีคำว่า 「オジサン」 ที่เขียนด้วยตัวคาตาคานะแบบนี้ด้วยค่ะ เป็นชื่อเรียกของปลาชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า オジサン ก็เพราะว่า มันมีหนวด ดูแล้วคงเหมือนคุณลุงเลยเรียกแบบนี้ หน้าตาของปลาเป็นแบบนี้นะคะ
วันนี้สั้นๆพอเนอะ เจอกันใหม่ครั้งหน้านะคะ :)
また会いましょう~

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก http://ameblo.jp/planet-rs/entry-10530431548.html

วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2558

Unit 12 : カラオケ個室にも気をつけてね!

สวัสดีค่ะะ~~

วันนี้เรากลับมาดูคำศัพท์ที่ 漢語 กันนะค่ะ หลังจากที่ไม่ได้อัพคำศัพท์ใหม่ๆมานาน =..=
ก่อนหน้านี้เราเคยนำเสนอข่าวธุรกิจไปครั้งหนึ่งเนอะ วันนี้ก็จะขอนำเสนอคำศัพท์ที่อยู่ในข่าวเหมือนกัน แต่เป็นข่าวโจรกรรมค่ะ คำศัพท์บางคำอาจจะเคยเจอกันแล้วในวิชาการอ่านภาษาญี่ปุ่นเทอมที่แล้ว แต่คิดว่าหลายคนก็คงลืมกันไปบ้างแล้ว (เราก็เหมือนกัน 555)

 ข่าวนี้เอามาจากในแอพริเคชั่นไลน์ เป็นข่าวญี่ปุ่นสรุปสั้นๆที่เขาจะส่งมาให้ทุกวัน  ซึ่งทั้งสั้นและเข้าใจง่ายด้วยค่ะ และสามารถคลิกลิงค์ไปอ่านข่าวยาวต่อได้ ใครสนใจลอง Add Friend เข้าไปในไลน์ได้ในคะ ชื่อว่า Line news ค่ะ  ข่าวที่จะให้ดูวันนี้เป็นข่าวของวันที่ 26/4/58 เป็นข่าวสั้นๆแบ่งเป็น 3 ย่อหน้านะคะ มาดูกันค่ะ!

「60代男性にカラオケ個室で昏睡強盗、73歳女を逮捕」

 睡眠導入剤入りのビールで眠らせた男性から現金を奪ったとして25日、昏睡強盗容疑で、大阪・東成区の無職の女(73)が逮捕されました。

----------------------------------------------------------------------
Note : ดูย่อหน้านี้กันก่อน ย่อหน้านี้จะเห็นว่ามีแค่ประโยคเดียวแต่คำขยายเยอะมาก ต้องดูให้ดีๆนะคะว่าประธานคือใคร 
睡眠導入剤 すいみんどうにゅうざい)หมายถึง ยานอนหลับ ถ้าจะบอกว่าเบียร์ที่ใส่ยานอนหลับ ก็จะกลายเป็น 睡眠導入剤入りのビール ค่ะ
・ 昏睡強盗 (こんすいごうとう)การขโมยของโดยเจตนาโดยที่ทำให้อีกฝ่ายอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ซึ่งก็คือ การทำให้หลับนั้นเองค่ะ ซึ่งคำนี้มีอธิบายอยู่ในย่อหน้าที่ 3 ด้วยนะคะ
・ 容疑 (ようぎ)หมายถึง ข้อกล่าวหา 
・ 無職 (むしょく)หมายถึง ว่างงาน ไม่มีงานทำ
・ 逮捕 (たいほ)する หมายถึง จับกุม
----------------------------------------------------------------------

 容疑は1月14日夜~翌朝にかけ、大阪市のカラオケ店個室で、60代の無職男性に睡眠導入剤入り缶ビールを飲ませて眠らせ、現金3万円と携帯電話を奪った疑い。女は容疑を否認しています。

----------------------------------------------------------------------
Note : 
否認(ひにん)หมายถึง การปฏิเสธ ดังนั้น 容疑を否認する เลยหมายถึง ปฏิเสธข้อกล่าวหา
----------------------------------------------------------------------

 昏酔強盗は、人の意識作用に障害を生じさせ、反抗できない状態に陥れて財物盗取すること。法定刑強盗致死傷罪等の適用において、強盗罪と同様に扱われます。

----------------------------------------------------------------------
Note : 
作用(さよう) หมายถึง การกระทำ,การปฏิบัติการ  คำว่า 意識作用 จึงหมายถึงการกระทำที่มีสติ หรือก็คือจงใจทำนั่นเองค่ะ 
反抗 (はんこう)หมายถึง การต่อต้าน การคัดค้าน
財物(ざいぶつ・ざいもつ)หมายถึง ทรัพย์สิน
盗取(とうしゅ)する  หมายถึง ลักทรัพย์, ขโมย
法定刑(ほうていけい)หมายถึง บทลงโทษทางกฎหมาย
強盗致死傷罪(ごうとうちししょうざい)หมายถึง ความผิดที่ถูกกำหนดในกฎหมายอาญา 240 ประการ
適用 (てきよう)การนำ(กฎ)มาใช้  ตัวอย่างเพิ่มเติม เช่น あなたはこの規制すべての場合適用するわけにはいかない。เธอไม่สามารถนำกฏนี้มาใช้ได้กับทุกสถานการณ์หรอกนะ
----------------------------------------------------------------------

บทความสั้นนิดเดียวแต่ก็ได้คำศัพท์เยอะแยะเลยเนอะ แถมเข้าใจง่ายด้วย อาจจะจำยากหน่อยนะคะ แต่คิดว่าถ้าลองไปฝึกอ่านข่าวพวกนี้เยอะๆก็จะจำได้เอง อย่างน้อยมาดูครั้งนี้ก็ทำให้รู้ว่ามันมีศัพท์ประมาณนี้ด้วยนะ แล้วค่อยๆจำไปก็ได้ค่ะ

ยังไงวันนี้ขอจบลงเพียงเท่านี้ก็พอ เดี๋ยวมันจะเยอะเกินรับไหวเนอะ  แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้านะคะ :)

ที่มาของข่าว : http://news.line.me/issue/social/6e24c10445f4

วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558

Unit 11 : I can change (New me)

สวัสดียามเย็นค่า こんばんは!
ก่อนจะกลับไปสอนคำศัพท์ 漢語 บทนี้ขอพูดถึงเรื่อง story telling อีกครั้งหนึ่งนะคะ
หลังจากที่ได้ลองพูดสดไปในครั้งแรก นำไปเขียนใหม่ให้ถูกต้องในครั้งที่ 2 และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 อาจารย์ให้ลองพูดใหม่อีกรอบแล้วอัดเสียงค่ะ เพื่อดูว่าเราพัฒนาขึ้นหรือเปล่า
ถ้างั้น มาดูกันค่ะว่าเราพัฒนาขึ้นบ้างหรือเปล่า  Let's go!

------------------------------------------------------------------------

このストーリーのキャラックターは(はい)赤ちゃんと犬がいるですね。(はい)あのう、赤ちゃんは「今日は何を遊んだらいいです…いいかな」と思って(はい)そして、犬寝ているのを見ました。その時「あっ、そうだ!今日犬に乗ろう」と思いました。(はい)だが、あのう、すると、赤ちゃんは犬の方にはいはいして近づいてきました。そして、あのう、突然犬は目を目覚ます。(ああ)その時、赤ちゃんは驚きましたね。(へー)そして、(はい)あのう、赤ちゃんは「やばい!犬は気がついてき…気がついてしまいました(に気づかれてしましまた ดีกว่า)。これなら、犬乗ろう…乗るのはできない乗れなくなるでしょ…でしょうね」と思って、で、赤ちゃんは犬の方…の…の…後ろの方に行くことにしまった…しました。(ああ)そして、赤ちゃんは犬の後ろに着くと、「あっ!どうしてまた顔なの?」と思って、また犬の顔と、あのう…せー…わせてしまいました。(ああ)実は、その…あのう…赤ちゃんははいはいしている…後ろにはいはいしているときに、犬はかゆいので、あのう…犬は頭をかいてから、あのう向きの方に寝るに変わってを変えて(ああ)ねー…寝ましたと思います。はい、それは私たちにとっては面白くないですが、あのう、まだ赤ちゃんなので、このストーリーは、あのう、面白い思っています(はい)

-------------------------------------------------------------------------

ขีดสีน้ำเงิน = คือที่เราพูดไป
ขีดสีแดง = อาจารย์แก้กลับมาให้อีกครั้ง
วงเล็บสีเทา = あいづち ของเพื่อน

 ★ สิ่งที่พัฒนาขึ้น ★

   จะเห็นได้ว่าครั้งนี้เราพูดได้ดีกว่าครั้งแรก(ใน unit 9 : I can change (myself) )เยอะเลยค่ะ ชมตัวเอง 555 คืออาจจะยังไม่ดีทีเดียว แต่เราคิดว่ามันฟังรู้เรื่องขึ้นเยอะเลยค่ะ ครั้งแรกนี่พูดไม่เป็นประโยคเลยค่ะโดยเฉพาะคำว่า  あのう จะเห็นว่ามันลดลงมาก ในช่วงแรกเราพยายามจะไม่ใช้ แต่หลังๆเริ่มหลุดไม่ได้คุมตัวเองเลยเริ่มกลับมาเยอะ จึงคิดว่าจากนี้ไปต้องพยายามมีสติเวลาพูดให้มากขึ้นจะได้ใช้ได้น้อยลงกว่านี้อีก และเนื่องจากรู้คำศัพท์จากที่อาจารย์สอนมากขึ้นเลยสามารถนำศัพท์เหล่านั้นมาใช้อธิบายได้ถึงแม้จะมีใช้ผิดอยู่บ้างก็ตาม แต่ก็รู้สึกว่าการใช้คำศัพท์หลากหลายขึ้น รวมถึงใช้คำสันธานหลากหลายขึ้นด้วย แต่บางทีก็ยังเผลอใช้ そして อยู่หลายครั้งเหมือนกันค่ะ นอกจากนี้เรายังพยายามสื่อสารกับผู้ฟังไปด้วยโดยการใช้ ね ซึ่งครั้งที่แล้วไม่มีให้เห็นเลย เหมือนเอาแต่เล่าไปเรื่อยๆมากกว่าเนอะ 

 ★ สิ่งที่ยังต้องแก้ไข ★

   เรายังต้องพยายามคุมตัวเองให้มีสติเวลาพูดมากกว่านี้ และจะต้องพยายามใช้ あのう ให้น้อยที่สุด คิดว่าถ้าทำได้น่าจะทำให้การพูดดูโปรขึ้นเยอะเลยค่ะ 55 และก็ยังต้องแก้พวกเรื่องคำช่วยที่เผลอใช้ そして อยู่ นอกจากนี้จะเห็นได้ว่ายังมีส่วนไวยากรณ์ที่ยังผิดเยอะเหมือนกันค่ะ ต้องพยายามแก้ไขเรื่องนี้เหมือนกัน ส่วนในตอนท้ายที่เราเขียนไปว่า 面白い思っています คือจะพยายามจะบอกว่า สำหรับเด็กคงจะคิดว่าเป็นเรื่องน่าสนใจ แต่ก็เหมือนกับไม่ระบุว่าใครให้ชัดเจน อาจารย์เลยไม่รู้ว่าใคร ครั้งหน้าจะพยายามคุมตัวเองให้พูดรอบคอบกว่านี้นะคะ :)

วันนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้ ครั้งหน้าเรามาพบกับคำศัพท์ 漢語 ใหม่ๆกัน แล้วเจอกันค่า ~~ 

วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2558

Unit 10 : I can change (I see)

สวัสดียามบ่ายค่า こんにちは~
วันนี้เราจะมาอัพต่อจากของบล็อคเมื่อวานนี้นะคะ :)

พอหลังจากสัปดาห์ที่อาจารย์ให้พูดด้วยตัวเองแล้ว อาจารย์ก็มาให้ดูตัวอย่างของที่คนญี่ปุ่นเขียน และให้ศึกษาวิธีการเขียนของเขาและคำศัพท์ของเขาคะ แล้วก็ได้ให้ไปลองเขียนแก้สิ่งที่เองพูดไปในครั้งแรกให้ดีขึ้น ซึ่งเราก็ได้แก้ออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ

--------------------------------------------------------------------------

 このストリーストーリーの登場人物は、赤ちゃんと犬です。
 ある日、赤ちゃんが「今日何を遊んだらいいかな」と思っているに、寝ている犬をちらっと見ました。「そうだ!ナイトを白馬に乗っているように、犬に乗って遊ぼう」と思って、静かに犬のところへはいはいをして近づいています。犬の前にたどり着くと、突然犬が目を覚ました。「あっ、やばい。犬に気づかれてしまった。僕が乗るの乗ろうとしていることがわかったら、歩いて逃げるはずきっと逃げてしまうだろう。どうしよう。そうだ!お尻のほうから乗ろう」赤ちゃんはそう思ってぐるりと回って犬の後方へそっとはいはいをしましたしていました。「あれ?なんでまた犬の顔なの?」赤ちゃんは犬の後方へ行くのに、また犬と顔を合わせてしっまて、驚きました。すると、「まさか。もしかして僕の犬お尻がない!?」と不思議に思います。実は、赤ちゃんが犬の後方にはいはいをしたいるしている時に、その犬はかゆいかゆくなったので、自分の後足で顔をかいてから、向きを変えたのです。でも、子供は子どもだから、その赤ちゃんにとってはこの状況はきっと面白いでしょうね。

---------------------------------------------------------------------------

ขีดสีน้ำเงิน = คือที่เราแก้ไป
ขีดสีแดง = อาจารย์แก้กลับมาให้อีกครั้ง

★ สิ่งที่พัฒนาขึ้น 

     จะเห็นได้ว่าเราเปลี่ยนเนื้อหาใหม่หมดเลยค่ะ 55 โดยเอาตัวอย่างของคนญี่ปุ่นมาประยุกต์ใช้ ครั้งแรกที่เราทำ(อยู่ในบล็อคก่อนหน้านี้)ก็ได้อธิบายก่อนเหมือนกันว่ามีตัวละครตัวใดบ้างในเรื่อง เพราะคนฟังจะได้รู้ว่าที่เราจะเล่ามีตัวละครแค่สองตัว แต่ในตอนแรกยังบอกไม่ค่อยเคลียร์เท่าไหร่ เลยเอาสำนวนของคนญี่ปุ่นที่อาจารย์ให้ดูมาประยุกต์ใช้ในการแก้ครั้งนี้ด้วยค่ะ
      ในส่วนเนื้อหา หลังจากที่ได้เรียนรู้สำนวนมากมายจากชีทที่อาจารย์แจกให้เราก็เอามันมาใช้ในการแก้ครั้งนี้ หลายคำมาก เช่น คำที่สงสัยตอนที่ได้ลองพูดครั้งแรก อย่าง กลับหลังหันแล้วคลานไปทางข้างหลังสุนัข จะใช้ประโยคว่า「ぐるりと回って犬の後方へはいはいをしていました」เป็นต้น และได้ใช้คำอื่นๆที่เราเห็นคนญี่ปุ่นใช้บ่อยๆเช่น คำว่า คลาน 「はいはいをする」, คำว่า มาถึง「たどり着く」 เป็นต้น
      นอกจากเรื่องคำศัพท์แล้ว เราก็พยายามแก้ให้เป็นแบบ 視点 เดียวเหมือนกับตัวอย่างหลายๆอันของคนญี่ปุ่น เพราะเรารู้สึกว่ามันจะทำให้คนฟังเข้าใจง่ายขึ้น และไม่สับสนไปมาว่าใครกำลังทำอะไรกันแน่ และเราก็ได้ลองตีความไว้ตอนสุดท้ายด้วยเพื่อให้เรื่องนี้ดูมีอะไรมากขึ้นแต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่เนอะ 55

★ สิ่งที่ยังต้องแก้ไข 

     เยอะแยะเลยค่ะ 55 อย่างเช่น คำง่ายๆเรายังเขียนผิดเลย เช่น ストーリー、している ครั้งหน้าต้องเช็คให้รอบคอบกว่านี้ก่อนส่งเนอะ แล้วก็มีผิดพวกไวยากรณ์อยู่และผิดคำช่วยบ้างนิดหน่อย และตรงคำว่า ナイト ที่อาจารย์ใส่ ?เราอยากจะใช้คำว่าอัศวินแต่ดูเหมือนคำนี้อาจจะไม่ค่อยใช้กันหรือเปล่านะ อาจารย์เลยใส่ ?  คิดว่าควรใช้คำว่า 騎士(きし) น่าจะดีกว่านะคะ และมีตรงสุดท้ายที่เราว่าจะให้ข้อคิดสักหน่อย เราอยากจะบอกว่า เพราะว่าเด็กยังไงก็ยังเด็ก เรื่องแบบนี้เลยดูน่าสนใจสำหรับทารกคนนั้น แต่มาคิดๆดูอีกที มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าสนใจนะ เป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับเด็กทารกคนนั้นมากกว่าค่ะ และก็เหมือนกับคำว่า 子供 กับ 赤ちゃん มันเป็นคนละคำกัน คิดว่าควรจะใช้คำว่า 赤ちゃん อย่างเดียวไปน่าจะดีกว่านะคะ

    จะเห็นได้ว่าพอได้ทำรอบสองแล้วก็มีทั้งส่วนที่พัฒนาและส่วนที่ยังต้องแก้ไขอยู่อีกเยอะเลย แต่เราว่างานในครั้งนี้มีประโยชน์มากๆเลยนะคะ ทำให้เราเห็นตัวเองเวลาพูด ทำให้รู้ในสิ่งที่ตัวเองบกพร่องเพื่อที่จะได้ไปแก้ไขต่อไป และทีนี้เวลาไปเล่าอะไรให้คนญี่ปุ่นฟังเราก็ไม่ต้องกังวลแล้ว เพราะเราก็ได้รู้แนวทางแล้วค่ะ แต่ยังไงก็ยังต้องฝึกฝนอยู่เรื่อยๆนะคะ :)

    วันนี้เราก็ขอตัวไปก่อนนะคะ   さよなら~



วันอังคารที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2558

Unit 9 : I can change (by myself)

สวัสดีค่า ไม่ได้พบกันนานเลย お久しぶり~
หลังจากสอบมิดเทอมงานเยอะมาก เลยไม่มีโอกาสได้เข้ามาอัพบล็อคเลย แต่ตอนนี้งานเริ่มเคลียร์ๆไปบ้างแล้ว จากนี้ไปจะทยอยมาอัพบ่อยๆนะคะ (>..<  )

วันนี้จะเป็นบล็อคเกี่ยวกับงาน Storytelling ที่อาจารย์ให้ทำในคาบ App Jp Ling ตั้งแต่เมื่อสองสัปดาห์ที่แล้วนะคะ รายละเอียดของงานคือ อาจารย์ให้ภาพการ์ตูนภาพหนึ่งมา แล้วให้ลองเล่าเรื่องราวในภาพนั้นให้เพื่อนฟัง โดยที่ไม่ได้เพื่อนดูภาพค่ะ ของเราได้หัวข้อ 赤ちゃんと犬 และภาพเป็นแบบนี้ค่ะ

赤ちゃんと犬 


แล้วอาจารย์ให้อัดเสียงและถอดเทปออกออกมา มาดูบทถอดเสียงของเรากันนะคะ

------------------------------------------------------------------------------------------

まず、あのう…犬が一匹…あのう…子供、あっ、赤ちゃんが…一人います。この…ああ…その犬は寝ています。この赤ちゃん…その赤ちゃんは、犬に…犬の前に行って…あのう…犬にの…乗りたいなと思って…思っていました。(はい)そして、あのう…突然犬は起きました。赤ちゃんは…あのう…犬の前と前に合って、あのう…赤ちゃんは驚きました。(驚きました)はい、そして、赤ちゃんはあのう…犬の裏のほうにあのう…乗ろうと…乗ろうと思って、犬の後ろに行きました。その時、あの犬は、か…あのう…かゆい…ははは(私が笑う)…かゆいので、犬は自分のうしら、あっ、後ろのほうに向かってしまいました。その赤ちゃんは…あのう…犬の後ろの、えっえっ、赤ちゃんは犬の後ろに着いた時にあのう…犬はもうなんか…顔、犬のほうの顔はもう…犬…ははは(私が笑う)…犬、犬、犬は、赤ちゃんは…ははは(私が笑う)…あのう…後ろのほうに着いたら、犬はもう。突然この時赤ちゃんはもう…また犬の顔が見てあのう、おどろ、驚きました。わかりましたか。(私と友達が笑う)(つまり、赤ちゃんはどっちに行きましたか。)犬の後ろのほうに行きましたが、かゆいので、犬はあのう…最初のほうじゃなくてあのう…変わってあのう…今はまた目と目になった。(ああ、わかりました)

-------------------------------------------------------------------------------------------

วงเล็บสีเทา = あいづち ของเพื่อน

รู้เรื่องกันไหมคะ 55
あのう เต็มไปหมดเลยเนอะ พูดก็ติดๆขัดๆอีก แล้วก็คิดว่าถ้าไม่ได้ดูภาพก่อนก็อาจจะไม่รู้เรื่องเหมือนกัน และเนื่องจากว่าเป็นครั้งแรกด้วย เราก็ทั้งตื่นเต้น ทั้งนึกศัพท์ไม่ออก แล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะใช้ศัพท์คำไหนดีในการอธิบายลักษณะท่าทางนี้ เช่น ตอนที่มาสบตากับเด็กพอดี ไม่รู้ทำไมตอนนั้นเราถึงใช้คำว่า 犬の前と前に合って ไป คิดว่าจริงๆแล้วน่าจะต้องการพูดว่า 目と目 มากกว่าแต่ดันพูดผิด 555 ตอนที่พูดอันนี้เสร็จเราเลยอยากรู้ว่าถ้าอยากจะบอกว่าประมาณว่าสบตากัน หันหน้ามาเจอกันพอดีเป๊ะ จะพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นว่าอะไร คำว่าคลานไปข้างหลังสุนัข และสุนัขกลับตัวไปนอนอีกฝั่งจะพูดยังไงดี ซึ่งในบทต่อไปเราจะมาดูกันว่าพออาจารย์ได้สอนคำศัพท์เหล่านั้นมาแล้วเราจะสามารถแก้ให้ได้ดีขึ้นหรือเปล่า

วันนี้ขอตัวไปก่อนนะคะ  バイバイ~

วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2558

Unit 8 : 内省 2

วันนี้เราจะมา 内省 กันว่าตั้งแต่บทแรกจนถึงบทนี้มีอะไรที่เราได้ลองไปใช้บ้าง ใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง

★ --------------------------------------------------------------------------------------- 

Unit 1 : 凹凸  

คำศัพท์ที่เราสอนไปในบทนี้คือคำว่า 凹凸 กับเพิ่มเติมคำว่า 凸凹 ใช่ไหมคะ อันนี้อาจจะไม่ได้ลองเอาไปใช้จริงๆ แต่ว่าเราได้ยินอาจารย์ญี่ปุ่นที่มาสอน 書道 พูดว่าให้เขียนลงบนกระดาษด้านที่มัน 凸凹 นะ (แต่พูดเป็นภาษาญี่ปุ่นนะคะ) พอได้ยินแล้วก็ อ่อ เลยค่ะ ก็คือด้านที่มันขรุขระนั้นเอง ความรู้สึกในตอนนั้นคือ รู้สึกดีมากค่ะ เพราะถ้าเราไม่ได้ทำบล็อคนี้ขึ้นเราอ่านจะฟังไม่ออก ต้องไปเปิดพจนานุกรมหรือถามเพื่อนเอา
★ --------------------------------------------------------------------------------------- 

Unit 3 : 合否

ในบทนี้เราได้สอนเกี่ยวกับคำคันจิที่มันตรงกันข้ามกันเนอะ เราได้ลองเอาไปใช้จริงด้วย ใช้คำว่า 要否 ไปค่ะ
คือเราได้เขียน 学習計画書 หรือ Study Plan เพื่อจะไปส่งสมัครสอบทุนรัฐบาลญี่ปุ่นมาค่ะ เราก็เขียนไปว่า

ビジネスメールにおける「いつもお世話になっております」の表現に興味を持つきっかけになったのは、「日本人が気づいていないちょっと変な日本語」という本を読んだからである。この本によると、ビジネスメールの書き出しでよく使われる「いつもお世話になっております」という表現を不快に感じる読み手がいるという。なぜなら、はんこを押すように毎回使って送るのは、書き手の誠実さを感じないのである。また、会ったことがない人に使うのは失礼なことだが、ビジネスメールではよく使うという。さらにインターネットで調べると、この表現は必要か不必要かという疑問を抱いた人が多くいる。この表現の要否に関する調査を行ったウェブサイトも見つけた。

เราใช้คำว่า 要否 ไปเพราะจะได้ไม่ต้องกล่าวคำว่า 必要か不必要か ซ้ำอีกครั้งหนึ่ง แต่พอให้อาจารย์กนกวรรณช่วยเช็คให้อาจารย์ก็แก้ให้มาเป็นแบบนี้ค่ะ

ビジネスメールにおける「いつもお世話になっております」の表現に興味を持つようになった理由は日本人が気づいていないちょっとへんな日本語という本を読んだからである。この本によると、ビジネスメールの書き出しでよく使われる「いつもお世話になっております」という表現を不快に感じる読み手がいるという。なぜなら、はんこを押すように毎回使って送るのは、書き手の誠実さを感じないからである。また、会ったことがない人に使うのは失礼なことだが、ビジネスメールではよく使うという。さらにインターネットで調べると、この表現は必要か不必要かという疑問を抱いた人が多くいる。この表現の要否に関する調査を行ったウェブサイトも見つけた。

อาจารย์บอกว่าสามารถใช้ 「表現の要否」 ได้ค่ะ เย้~ แต่ประโยคนี้ถ้าเปลี่ยนเป็นคำว่า「表現の必要性の有無(うむ)」จะเข้าใจมากกว่าค่ะ

พอได้ลองใช้คำนี้ก็รู้สึกดีค่ะ เพราะเหมือนกับว่าไม่ต้องพูดคำว่า 必要か不必要か ซ้ำอีกให้มันยาว แค่คำนี้ก็สื่อความได้แล้ว เลยทำให้มีกำลังใจในการอัพบล็อคต่อ เพราะอย่างน้อยสิ่งที่เราอัพไปมันมีประโยชน์จริงๆค่ะ
★ --------------------------------------------------------------------------------------- 

Unit 6 : 雪

หลังจากอัพบทนี้ไป เราก็ไปเจอคำว่า 吹雪 ในตัวอย่างข้อสอบทุนรัฐบาลญี่ปุ่นค่ะ เขาได้เขียนคำอ่านของคันจิตัวนี้ พอเห็นแล้วก็ตอบได้เลยค่ะ รู้สึกดีใจมากค่ะ ที่เราอัพไปมันก็ช่วยเราในเรื่องการทำข้อสอบด้วย
★ --------------------------------------------------------------------------------------- 

บล็อคของเพื่อนๆ

นอกจากนี้นะคะ บล็อคของเพื่อนๆที่เราไปอ่านมาก็มีประโยชน์มากเหมือนกันค่ะ
อย่างตอนนั้นไปอ่านบล็อคของเพื่อนคนหนึ่งที่ทำเรื่องเกี่ยวกับคำศัพท์วันตรุษจีน 
แล้วช่วงนั้นก็ลองไปอ่านข่าวญี่ปุ่นเล่นๆก็เจอคำศัพท์เกี่ยวกับตรุษจีนหลายคำตรงกับบล็อคของเพื่อนคนนี้เลยค่ะ ไปเจอคำว่า 春節 พาดหัวข่าว เห็นแล้วรู้เลยค่ะว่าข่าวเกี่ยวกับงานเทศกาลตรุษจีน ไม่ต้องเสียเวลาไปเปิดพจนานุกรมเลย ซึ่งพอมันได้ใช้จริงๆแบบนี้ เราก็เลยชอบเขาไปอ่านบล็อคของคนอื่นมากค่ะ
★ --------------------------------------------------------------------------------------- 

ยังไงจากนี้ก็จะพยายามอัพบล็อคที่มีประโยชน์และใช้ได้จริงๆ เพื่อพัฒนาตัวเองอีกนะคะ และหวังว่าจะได้ประโยชน์กับเพื่อนๆเช่นกันค่ะ ♪

วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2558

Unit 7 : 指

สวัสดีค่า กลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนาน
วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องของนิ้ว หรือ 指(ゆび)
อยากรู้ไหมคะว่าคนญี่ปุ่นเขาเรียกนิ้วแต่ละนิ้วว่าอะไรกัน
มาดูกันค่ะ!


① 親指(おやゆび) = นิ้วโป้ง 
② 人差し指(ひとさしゆび) = นิ้วชี้
③ 中指(なかゆび) = นิ้วกลาง
④ 薬指(くすりゆび) = นิ้วนาง
⑤ 小指(こゆび) = นิ้วก้อย

ชื่อเรียกไม่ค่อยยากใช่ไหมคะ แต่ความหมายของชื่อแต่ละนิ้วนี่แปลกๆทั้งนั้นเลย อย่างทำไมนิ้วนาง เรียก 薬指 กันนะ เกี่ยวอะไรกับยาหรือเปล่า เราก็เลยลองไปเสิร์ชดูว่าที่มาของชื่อแต่ละนิ้วคืออะไร ซึ่งแต่ละคนก็บอกไม่เหมือนกันค่ะ จะต่างกันนิดหน่อย แต่จะสรุปโดยรวมให้ฟังนะคะ

① 親指 ที่นิ้วโป้งใช้ชื่อนี้ก็เพราะเป็นนิ้วที่ใหญ่สุด และสำคัญที่สุดในบรรดานิ้วอื่นๆ เหมือนกับหัวหน้าครอบครัว ซึ่งก็คือ 親
②  人差し指 อันนี้ก็เหมือนชื่อของไทยค่ะ นิ้วชี้ เพราะว่าเป็นนิ้วที่มักจะใช้ชี้คนหรือสิ่งของค่ะ
③ 中指 อันนี้ก็ตรงๆ นิ้วกลาง เพราะอยู่ตรงกลางค่ะ
④ 薬指 ที่ใช้คำว่า 薬 กับนิ้วนางเพราะว่าสมัยก่อนเวลาคนยาให้ละลายหรือผสมยามักจะใช้นิ้วนี้ค่ะ
⑤ 小指 อันนี้ก็ตรงๆเหมือนกัน เพราะนิ้วก้อยเป็นนิ้วที่เล็กที่สุดค่ะ

พอจะจำกันได้ไหมเอ่ยย

วันนี้ก็สั้นๆเนอะ แล้วพบกันใหม่นะคะ :)